“ป่าที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นป่าเบญจพรรณ ที่มีต้นไม้จำพวกไม้เต็ง ไม้รัง ไม้แดง ไม้มะค่า ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นโครงการดังกล่าวจึงช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าให้มีมากขึ้นจาก 1,008 ไร่ เพิ่มมาเป็น 1,500 ไร่ ในขณะนี้และได้ขยายป่าชุมชนไปทั้ง 17 หมู่บ้าน เพราะเมื่อป่าดีขึ้นชาวบ้านก็มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเพราะมีแหล่งอาหารมากขึ้นจากป่าที่อุดมสมบูรณ์” นายรวม วิเศษศิลป์ ชาวบ้าน ในอ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี บอกเล่าสภาพพื้นที่ป่าให้ฟังในวันเปิดกิจกรรม “ปลูกต้นไม้ สร้างฝาย ขยายคูคลอง สนองพระมหากรุณาธิคุณ” เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา สิ่งแวดล้อม ภายใต้ โครงการ ๙ ล้านกล้า ๘๐ พรรษามหามงคล ที่ เทสโก้ โลตัส ผนึกกำลังภาคี มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยร่วมฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมในเขตพื้นที่ราชพัสดุ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี จำนวน 250 ไร่ ปลูกต้นไม้ 5,000 ต้น ซึ่งเกิดจากการถูกบุกรุกของชาวบ้าน พร้อมมอบเกียรติบัตรให้แก่ชาวบ้านที่ทำการคืนพื้นที่ให้แก่กองทัพบก เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างทหารและชุมชนในการดูแลรักษาผืนป่า
พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานกรรมการอำนวยการ “โครงการ ๙ ล้านกล้า ๘๐ พรรษามหามงคล” กล่าวว่า การดำเนินการตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาสู่การลงมือปฏิบัติ และการน้อมรับเอากระแสพระราชดำรัสในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มาขยายผล อย่างจริงจังนั้น ล้วนแต่จะนำประโยชน์มาสู่บ้านเมือง และถือเป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคนที่ไม่ควรเพิกเฉย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของโลกอยู่ในขณะนี้ แม้จะมีโครงการปลูกป่าหลายต่อหลายโครงการแล้ว แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น เป็นเพราะเรายังขาดความตระหนัก และปลูกจิตสำนึกในเรื่องเหล่านี้อย่างจริงจัง
“ความร่วมมือของประชาชนกับหน่วยทหารในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดี ที่จะก่อให้เกิดความร่วมมือในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป ก็ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันคิดต่อไปว่า ทำอย่างไรจึงจะทำให้ป่ากับคนเกื้อกูลกัน ในลักษณะปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง จึงขอฝากให้กองทัพที่ดูแลพื้นที่แห่งนี้ ได้นำไปพิจารณา และให้ความห่วงใยประชาชนที่เคยอาศัย และทำมาหากินเลี้ยงชีพอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ด้วย ถ้ามีอะไรที่เกื้อกูลกันระหว่างคนกับป่าโดยไม่ผิดกฎหมาย ป่าแห่งนี้ก็จะเป็นป่าที่ให้ประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างสมบูรณ์ ถ้าทำได้อย่างนี้ ความรักความผูกพันระหว่างทหารกับประชาชนในพื้นที่ ที่จะช่วยกันดูแลรักษาป่า ก็จะมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป”
ด้าน คุณสาวฟาง เอกลักษณ์รุจี ผู้จัดการอาวุโส กิจการบรรษัท – กิจการสาธารณะ เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า “โครงการ ๙ ล้านกล้า ๘๐ พรรษามหามงคล” ได้ดำเนินต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 5 ซึ่งผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง โดย 4 ปีที่ผ่านมาเทสโก้ โลตัส สนับสนุนทุนรวมไปแล้วกว่า 102 ล้านบาท เพื่อปลูกและดูแลกล้าไม้กว่า 5.7 ล้านต้น บนพื้นที่ 28,500 ไร่ สำหรับปี 2554 นี้ เทสโก้ โลตัส ได้สมทบทุนเพิ่มอีก 15 ล้านบาท และมีเป้าหมายในการปลูกต้นไม้เพิ่มอีก 1 ล้านต้น ในเขตพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ
ทั้งนี้ พื้นที่ปลูกป่าตามโครงการ “ปลูกต้นไม้ สร้างฝาย ขยายคูคลอง สนองพระมหากรุณาธิคุณ” แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1. พื้นที่ราชพัสดุ ใช้สำหรับการฝึกของทหาร ซึ่งขาดการดูแลที่ต่อเนื่องทำให้ประชาชนเข้ามาใช้ประโยชน์บางส่วน โดยอยู่ในบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำ บ้านหัวอ่าง อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการทำความเข้าใจกับประชาชนที่เข้ามาบุกรุก ทำให้มีประชาชนส่งพื้นที่คืนจำนวน 737 ราย รวมเนื้อที่ 786 ไร่
2. พื้นที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 100 ไร่ ซึ่งที่ผ่านมาราษฎรในพื้นที่ได้ทำการบุกรุกทำลายป่าไม้ สืบเนื่องมาจากปัญหาความต้องการที่ดินทำกิน และความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่งผลให้แหล่งอาหารของสัตว์ป่าลดน้อยลง และช้างป่าได้บุกรุกพื้นที่ทำกินและแปลงเกษตรของประชาชน สร้างความเสียหายต่อผลผลิตเกือบทุกปี ด้วยเหตุนี้ ในปี 2542 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้พระราชทานพระราชดำริเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว และนำไปสู่การจัดทำโครงการ “อนุรักษ์ และฟื้นฟูสภาพป่า บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ”.
พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานกรรมการอำนวยการ “โครงการ ๙ ล้านกล้า ๘๐ พรรษามหามงคล” กล่าวว่า การดำเนินการตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาสู่การลงมือปฏิบัติ และการน้อมรับเอากระแสพระราชดำรัสในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มาขยายผล อย่างจริงจังนั้น ล้วนแต่จะนำประโยชน์มาสู่บ้านเมือง และถือเป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคนที่ไม่ควรเพิกเฉย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของโลกอยู่ในขณะนี้ แม้จะมีโครงการปลูกป่าหลายต่อหลายโครงการแล้ว แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น เป็นเพราะเรายังขาดความตระหนัก และปลูกจิตสำนึกในเรื่องเหล่านี้อย่างจริงจัง
“ความร่วมมือของประชาชนกับหน่วยทหารในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดี ที่จะก่อให้เกิดความร่วมมือในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป ก็ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันคิดต่อไปว่า ทำอย่างไรจึงจะทำให้ป่ากับคนเกื้อกูลกัน ในลักษณะปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง จึงขอฝากให้กองทัพที่ดูแลพื้นที่แห่งนี้ ได้นำไปพิจารณา และให้ความห่วงใยประชาชนที่เคยอาศัย และทำมาหากินเลี้ยงชีพอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ด้วย ถ้ามีอะไรที่เกื้อกูลกันระหว่างคนกับป่าโดยไม่ผิดกฎหมาย ป่าแห่งนี้ก็จะเป็นป่าที่ให้ประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างสมบูรณ์ ถ้าทำได้อย่างนี้ ความรักความผูกพันระหว่างทหารกับประชาชนในพื้นที่ ที่จะช่วยกันดูแลรักษาป่า ก็จะมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป”
ด้าน คุณสาวฟาง เอกลักษณ์รุจี ผู้จัดการอาวุโส กิจการบรรษัท – กิจการสาธารณะ เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า “โครงการ ๙ ล้านกล้า ๘๐ พรรษามหามงคล” ได้ดำเนินต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 5 ซึ่งผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง โดย 4 ปีที่ผ่านมาเทสโก้ โลตัส สนับสนุนทุนรวมไปแล้วกว่า 102 ล้านบาท เพื่อปลูกและดูแลกล้าไม้กว่า 5.7 ล้านต้น บนพื้นที่ 28,500 ไร่ สำหรับปี 2554 นี้ เทสโก้ โลตัส ได้สมทบทุนเพิ่มอีก 15 ล้านบาท และมีเป้าหมายในการปลูกต้นไม้เพิ่มอีก 1 ล้านต้น ในเขตพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ
ทั้งนี้ พื้นที่ปลูกป่าตามโครงการ “ปลูกต้นไม้ สร้างฝาย ขยายคูคลอง สนองพระมหากรุณาธิคุณ” แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1. พื้นที่ราชพัสดุ ใช้สำหรับการฝึกของทหาร ซึ่งขาดการดูแลที่ต่อเนื่องทำให้ประชาชนเข้ามาใช้ประโยชน์บางส่วน โดยอยู่ในบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำ บ้านหัวอ่าง อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการทำความเข้าใจกับประชาชนที่เข้ามาบุกรุก ทำให้มีประชาชนส่งพื้นที่คืนจำนวน 737 ราย รวมเนื้อที่ 786 ไร่
2. พื้นที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 100 ไร่ ซึ่งที่ผ่านมาราษฎรในพื้นที่ได้ทำการบุกรุกทำลายป่าไม้ สืบเนื่องมาจากปัญหาความต้องการที่ดินทำกิน และความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่งผลให้แหล่งอาหารของสัตว์ป่าลดน้อยลง และช้างป่าได้บุกรุกพื้นที่ทำกินและแปลงเกษตรของประชาชน สร้างความเสียหายต่อผลผลิตเกือบทุกปี ด้วยเหตุนี้ ในปี 2542 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้พระราชทานพระราชดำริเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว และนำไปสู่การจัดทำโครงการ “อนุรักษ์ และฟื้นฟูสภาพป่า บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ”.