ผลประโยชน์ร่วมด้านอื่นๆ จากการนำขยะกลับมาใช้ใหม่และการลดการใช้พลังงาน
โลกร้อนเป็นเรื่องใหญ่ และเรื่องใหญ่มักไกลตัวคนส่วนมากที่รู้สึกว่าตนเองเป็นคนตัวเล็ก ๆ ในสังคม จะทำอะไรก็ไม่น่าส่งผลถึงเรื่องใหญ่ ๆ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำอะไรเกินปกติ แค่ดำเนินชีวิตไปเรื่อย ๆ กินอยู่ตามกำลัง ถึงจะมีส่วนปล่อยก๊าซเรือนกระจกบ้างก็ไม่น่าจะมากมายอะไร ทว่า ผลงานวิจัยเปรียบเทียบการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประชากรในเมืองใหญ่ชี้ชัดว่า แต่ละคนมีส่วนทำให้โลกร้อนมากกว่าที่คิด คนในกรุงเทพฯ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์คนละ 6.1 ตันต่อปี คนเซี่ยงไฮ้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์คนละ 9.7 ตันต่อปี
เห็นตัวเลขแล้วก็ต้องพากันสะดุ้ง อะไรจะมากมายขนาดนั้น ตัวเลขเหลือเชื่อนี้มาจากไหน
นักวิจัยศึกษาลักษณะการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของมนุษย์แล้วพบว่า หากยิ่งใช้พลังงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพ โลกก็ยิ่งร้อน อัตราการผลิตขยะหรือของเสียต่อคน และรายได้ต่อหัวประชากรก็สัมพันธ์กับการปล่อยก๊าซ กล่าวคือ เมืองที่ร่ำรวยปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า เนื่องจากใช้พลังงานมาก แต่ใช้อย่างไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงต้องมีนโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการลดปริมาณขยะ
การใช้พลังงานให้คุ้มค่าไม่ใช่เรื่องยากเกินทำ อันที่จริงคนทั่วไปก็ทำอยู่แล้วเรื่องหนึ่ง คือการใช้บริการขนส่งมวลชน เมื่อคนมาก ๆ เดินทางไปด้วยกัน ย่อมลดการใช้พลังงานได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพ เพราะเมื่อใช้รถยนต์น้อยลง ก็จะมีควันจากท่อไอเสียน้อยลง คนย่อมหายใจได้สบาย ลดโอกาสเป็นโรคระบบทางเดินหายใจได้มาก
ส่วนการลดปริมาณขยะนั้นเป็นเรื่องควรทำ ถ้าใช้วัสดุน้อย บริโภคเท่าที่จำเป็น หรือใช้สินค้าที่ไม่ใช้บรรจุภัณฑ์เกินความจำเป็น ก็จะช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่เมื่อมีขยะแล้วก็ควรแยกว่าเป็นขยะที่ยังนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หรือเป็นขยะย่อยสลายได้ แล้วแยกทิ้งให้ถูกที่ สำหรับภาครัฐก็ต้องจัดการกำจัดขยะให้ถูกวิธี โดยไม่ส่งผลให้โลกร้อนขึ้น เพราะเป็นที่รู้กันแล้วจากผลงานวิจัยว่า การฝังกลบขยะส่งผลร้ายต่อโลก เพราะปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งระหว่างกระบวนการเก็บขน การวางกอง และการย่อยสลายขยะ แม้กระทั่งการฝังกลบก็ก่อให้เกิดก๊าซมีเทนด้วย แม้ว่าจะเอาก๊าซนี้มาใช้ได้ และเอาขยะอินทรีย์มาทำปุ๋ยหมักได้ก็ตาม
นักวิจัยศึกษาการกำจัดและนำขยะมาใช้ใหม่ที่ตำบลพังโคน จ. สกลนคร เมื่อ ค.ศ. 2013 ตำบลนี้มีโครงการธนาคารขยะและโครงการนำขยะอินทรีย์มาใช้ใหม่ ทุกวันพฤหัสบดีจะมีเจ้าหน้าที่ไปเก็บขยะรีไซเคิล เช่น พลาสติก กระดาษ แก้ว อลูมิเนียม และโลหะ มาเข้าธนาคารขยะ เทศบาลรับซื้อขยะจากสมาชิกไปขายให้บริษัทรีไซเคิลได้ราคามากขึ้น ส่วนโครงการนำขยะอินทรีย์มาใช้ใหม่ คือการติดตั้งถังหมักปุ๋ยและระบบผลิตก๊าซชีวภาพระดับครัวเรือนให้ในราคาถูก เศษเหลือใช้จากกระบวนการทำปุ๋ยหมักและผลิตก๊าซชีวภาพ จะนำไปใช้ในแปลงนาและการทำการเกษตรของเทศบาลต่อไป ชุมชนร่วมมือกันเต็มที่ เข้าใจประโยชน์ของการรีไซเคิลขยะเป็นอย่างดี
โครงการธนาคารขยะลดปริมาณขยะที่จะส่งไปฝังกลบได้มากถึง 172.20 กก./สมาชิก/ปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโครงการรีไซเคิลขยะอื่น ๆ ในประเทศไทยถึงร้อยละ 926 คาดว่าเนื่องมาจากการเก็บและขนด้วยวิธีที่สะดวก (curbside pickup) และการให้ราคารับซื้อที่เหมาะสม โดยคำนวณค่า Carbon intensity (ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าที่เกิดจากขยะ 1 ตัน) ได้เท่ากับ 0.47 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งต่ำกว่าเทศบาลอื่น ๆ (ซึ่งหมายถึง การจัดการขยะด้วยวิธีดังกล่าว ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้จริง) นอกจากนี้ โครงการนำขยะอินทรีย์มาใช้ใหม่ก็ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ร้อยละ 16.8 และลดค่าใช้จ่ายในการฝังกลบลงเหลือ 4.75 USD ต่อตัน จากเดิมที่มีต้นทุน 7.41 USD และหากมีการนำขยะมาใช้ประโยชน์ได้ร้อยละ 30 จากปริมาณขยะทั้งหมด ผลประโยชน์ทางการเงินปีละ 6,777.13 USD และลดค่าใช้จ่ายในการฝังกลบลงเหลือ 4.75 USD ต่อตัน
การลดปริมาณขยะด้วยกิจกรรมในระดับท้องถิ่นนี้ขยายไปสู่ชุมชนอื่น ๆ ในประเทศไทยได้ ประชาชนในเขตเทศบาลที่ทำเกษตรกรรมจะได้ประโยชน์จากโครงการนำขยะอินทรีย์มาใช้ใหม่ เพราะขยะส่วนใหญ่ย่อยสลายได้ ส่วนชุมชนเมืองควรทำโครงการธนาคารขยะ เนื่องจากคนสมัยใหม่ทำขยะที่รีไซเคิลได้กันมาก อาทิ ขวด กล่อง กระดาษ จาน ชาม ช้อนพลาสติก ฯลฯ และมีผลประโยชน์ร่วมด้านอื่น ๆ ที่จะได้รับตามมาอีกมาก ดังทีเรียกกันว่า ขยะคือทองคำ
เมื่อรู้แล้วว่า แม้แต่คนตัวเล็ก ๆ ก็ทำเรื่องที่ส่งผลกระทบใหญ่หลวงแก่ส่วนรวมโดยตรงได้ อย่างโลกร้อน เราจึงควรร่วมด้วยช่วยกันผลักดันให้ภาครัฐกำหนดนโยบายสาธารณะที่ทุกคนยอมรับนำไปปฏิบัติได้ อย่างการใช้บริการขนส่งมวลชน หรือ ใช้เครื่องยนต์ที่ปล่อยมลพิษต่ำ และช่วยกันคนละไม้ละมือ เผยแพร่ความรู้เรื่องโลกร้อน ลงมือลด ละ เลิกการบริโภคเกินควร ที่สำคัญต้องจัดการขยะอย่างถูกวิธี เราจะได้มีสุขภาพดีเพราะอยู่ในโลกที่สุขภาพดีไปได้อีกนาน ๆ
อ้างอิง:
Challcharoenwattana, A., & Pharino, C. (2015). Co-Benefits of Household Waste Recycling for Local Community's Sustainable Waste Management in Thailand. Sustainability, 7(6), 7417- 7437.
Lee T, van de Meene S. (2013). Comparative studies of urban climate co-benefits in Asian cities: an analysis of relationships between CO2 emissions and environmental indicators. Journal of Cleaner Production. 58:15-24. Photo by The Guardian