ก๊าซเรือนกระจกจากนาข้าวลดได้ด้วยการจัดการน้ำ
ข้าวเป็นอาหารหลักของประชากรครึ่งโลก ข้าวร้อยละ 90 ของผลผลิตทั้งหมดปลูกในทวีปเอเชีย ชาวนาไทยส่วนใหญ่ปลูกข้าวปีละสองครั้ง และทำนาที่ขังน้ำซึ่งต้องใช้น้ำมาก ทว่า การทำนาข้าวไม่ได้มีเพียงประโยชน์ แต่ยังเป็นแหล่งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมีเทนที่สำคัญรองจากคาร์บอนไดออกไซด์ แต่มีค่าศักยภาพก่อเกิดภาวะโลกร้อนมากกว่าถึง 34 เท่า หากจะควบคุมการเพิ่มอุณหภูมิ ไม่ให้โลกร้อนเร็วขึ้น และลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ก็น่าจะใส่ใจหาทางลดก๊าซนี้ให้ได้มาก ๆ โดยเร็ว ไม่ใช่หาทางลดเพียงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
สาเหตุส่วนหนึ่งที่เกิดก๊าซมีเทนก็เพราะเมื่อปลูกข้าวแบบขังน้ำในนาเป็นเวลานาน จะมีเศษซากพืชปริมาณมาก เมื่ออินทรียวัตถุเหล่านี้ย่อยสลายแบบไร้อากาศจะเกิดก๊าซมีเทน แต่หากจัดการน้ำในแปลงนาให้เหมาะสมก็น่าจะลดการเกิดก๊าซนี้ได้
การจัดการน้ำในแปลงนามีสามวิธี คือ วิธีขังน้ำต่อเนื่องตลอดระยะเวลาปลูกข้าว วิธีผันน้ำกลางฤดูทำนา และวิธีผันน้ำหลายครั้ง หรือที่เรียกว่าการทำนาแบบเปียกสลับแห้ง ผลงานวิจัยเปรียบเทียบวิธีขังน้ำในนาจากพื้นที่บริเวณภาคกลางของไทย 6 แห่ง เพื่อประเมินค่าการปล่อยก๊าซมีเทนระหว่าง ค.ศ. 2001 – 2060 โดยใช้สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต พบว่า ในช่วง ค.ศ. 2051 – 2060 เมื่อเทียบกับวิธีขังน้ำต่อเนื่อง วิธีผันน้ำกลางฤดูทำนาจะลดการปล่อยก๊าซมีเทนลงได้ 21.9 – 22.9% ถ้าใช้วิธีผันน้ำหลายครั้งจะลดการปล่อยก๊าซมีเทนลงได้ถึง 53.5 – 55.2% ค่าการปล่อยก๊าซมีเทนนี้เทียบเท่าค่าการปล่อยก๊าซมีเทนที่บันทึกไว้ในช่วง ค.ศ. 2001 – 2010
แม้สภาพภูมิอากาศในช่วงหลายทศวรรษหน้าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ผลกระทบเชิงปริมาณของการปล่อยก๊าซมีเทนจากนาข้าวก็จะไม่ลดลง หากไม่จัดการน้ำในแปลงนาให้เหมาะสม การทำนาแบบเปียกสลับแห้ง นอกจากจะลดการใช้น้ำซึ่งเป็นทรัพยากรที่จะยิ่งหายากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ยังช่วยลดการย่อยสลายอินทรียวัตถุ ส่งผลให้การปล่อยก๊าซมีเทนลดลง ช่วยชะลอการเพิ่มอุณหภูมิโลก และอาจช่วยเพิ่มผลผลิตด้วย จึงควรศึกษาเพิ่มเติม ทั้งในด้านพื้นที่เพาะปลูก พันธุ์ข้าว และสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแบบต่าง ๆ ในอนาคต
อ้างอิง: Minamikawa, K., Fumoto, T., Iizumi, T., Cha-Un, N., Pimple, U., Nishimori, M., Ishigooka, Y., Kuwagata, T. (2016). Prediction of future methane emission from irrigated rice paddies in central Thailand under different water management practices. Science of the Total Environment, 566, 641-651.
Photo by CCAFS - CGIAR