วันนี้ ( 7 พ.ย.) ที่บริเวณคลองชลประทาน ตำบลงิ้วงาม อำเภอเมืองพิษณุโลก ตลอดเส้นทาง มีเกษตรกรชาวนาตั้งเครื่องรถไถ เพื่อสูบน้ำจากคลองชลประทานเข้านาข้าวกันเป็นจำนวนมาก นายเฉลียว ตุ้มสุข อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/1 หมู่ 3 ต.งิ้วงาม อ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ทำนาข้าวจำนวน 60 ไร่ ซึ่งขณะนี้ต้นข้าวมีอายุได้ประมาณ 60 วัน
โดยนายเฉลียว เล่าว่า ตนและเพื่อนเกษตรกรอีกหลายราย เริ่มทำนาล่าช้ากว่าพื้นที่อื่น ๆ เนื่องจากในฤดูน้ำที่ผ่านมา เกรงว่านาข้าวจะประสบปัญหาถูกน้ำท่วมเสียหาย จึงเลื่อนระยะเวลาการทำนาออก ในขณะที่หลายราย ยอมเสี่ยงลงทุนทำนา ในช่วงฤดูน้ำหลาก ซึ่งกลับกลายว่าเป็นผลดี เพราะปีนี้ไม่มีปัญหาน้ำท่วมเหมือนปีที่ผ่านมา แต่ชาวนาที่รอเวลาเนื่องจากกลัวน้ำท่วม ทำให้ทำนาล่าช้า ซึ่งในพื้นที่ตำบลงิ้วงาม มีอยู่ประมาณ 30 – 40 ราย ตอนนี้กำลังประสบปัญหา นาข้าวขาดน้ำ หลายแปลงชาวนาปล่อยต้นข้าวยืนต้นตายแล้ว เพราะลงทุนค่าน้ำมันสูบน้ำเข้านาไม่ไหว
นายเฉลียว ยังได้บอกอีกว่า ถึงแม้ในพื้นที่นาของตน จะเป็นเขตชลประทาน มีคลองชลประทานผ่าน แต่ขณะนี้เป็นช่วงงดส่งน้ำให้เกษตรกร ทำให้ปริมาณน้ำในคลองมีน้อย หลายรายก็ต้องแย่งกันสูบน้ำที่มีอยู่เข้านาของตนเอง พร้อมทั้งยังได้กล่าวอีกว่า ปีนี้ชลประทานงดส่งน้ำเข้านาเร็วกว่าทุกปี โดยที่ผ่านมา ทางชลประทานจะประกาศงดส่งน้ำ หลังเทศกาลลอยกระทง หรือประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน แต่ปีนี้งดส่งน้ำตั้งแต่ต้นเดือน
ยอมรับว่าปีนี้ชาวนาต้องปรับตัวในการวางแผนการทำนา เพราะช่วงที่คาดว่าน้ำจะท่วมก็ไม่ท่วม ช่วงที่เคยเริ่มลงมือทำนาได้ ก็กลับมาประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงขาดแคลนน้ำ และทำให้ตอนนี้ต้องมีภาระค่าใช้จ่าย เป็นค่าน้ำมันสำหรับสูบน้ำเข้านาเพิ่มมากขึ้นกว่าทุกปีอีกด้วย