ปรอทแตกอิรัก! – เมื่อ 16 มิ.ย. เอเอฟพี รายงานว่า ชาวอิรักกำลังต้องเผชิญกับฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ภายหลังอุณหภูมิเฉลี่ยในตอนกลางวันพุ่งขึ้นถึง 48 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุณหภูมิในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ชาวอิรักประสบความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน
ขณะที่สหรัฐอเมริกาผ่อนปรนให้อิรักสามารถซื้อไฟฟ้าจากอิหร่านได้เพิ่มเติมเป็นเวลา 90 วัน เพื่อนำมาแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ท่ามกลางความไม่พอใจของชาวอิรักต่อกระทรวงพลังงาน เนื่องจากเกิดไฟดับและไฟตกหลายครั้ง รวมทั้งการตัดไฟฟ้าบางพื้นที่
รายงานระบุว่า อุณหภูมิเฉลี่ยดังกล่าวทำให้ชาวอิรักจำนวนมากต้องปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศแบบสุดขั้ว อาทิ การใช้เทปกาวพันลูกบิดประตูโลหะเพื่อป้องกันการโดนลวก การเตรียมเสื้อผ้าชุดที่สองไว้ในรถยนต์เพื่อเปลี่ยนหากชุดแรกชุ่มเหงื่อเกินไป และบางคนถึงขั้นเดินเข้าไปในอาบน้ำด้วยฝักบัวสาธารณะขณะยังสวมชุดอยู่
ขณะที่บรรดาร้านค้า และสำนักงานต่างๆ ต้องปรับเปลี่ยนเวลาทำงานใหม่ โดยเปิดและปิดช้าลง เพื่อหลีกเลี่ยงอุณหภูมิที่พุ่งสูงในช่วงกลางวัน โดยชาวอิรักส่วนใหญ่ในกรุงแบกแดดต้องปิดบ้านตอนกลางวัน และเปิดบ้านตอนเย็นเป็นต้นไปแทน
อุณหภูมิที่พุ่งสูงยังทำให้ปริมาณการใช้เครื่องปรับอากาศมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการผลิตไฟฟ้าในประเทศ
จนรัฐบาลจำเป็นต้องตัดไฟฟ้าบางจุดเพื่อทุ่มกำลังไฟฟ้าไปยังพื้นที่ที่จำเป็น ส่งผลให้โรงพยาบาลบางแห่ง เช่นทางใต้ของกรุงแบกแดดต้องเผชิญการถูกตัดกระแสไฟถึง 17 ครั้งต่อวัน
Credit : https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_2623150