รัฐบาลนามิเบียหมดหนทางสู้ภัยแล้งหนักสุดในรอบเกือบศตวรรษ อนุมัติประมูลขายสัตว์ป่านับ 1,000 ตัวในพื้นที่ป่าคุ้มครอง หวังป้องกันสัตว์ล้มตายด้วยความอดอยาก ไม่มีอาหารกิน
เมื่อ 18 มิ.ย.62 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายโรมีโอ มูยุนดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของสาธารณรัฐนามิเบีย ประเทศยากจนในทวีปแอฟริกาตอนใต้ ซึ่งมีประชากรราว 2.4 ล้านคน แถลงยืนยันเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า คณะรัฐมนตรีนามิเบียได้อนุมัติให้มีการประมูลขายสัตว์ป่าอย่างน้อย 1,000 ตัว ในพื้นที่ป่าคุ้มครองต่างๆ ทั่วประเทศ ขณะที่นามิเบียเผชิญภัยแล้งที่สุดในรอบ 90 ปีในปีนี้
นายมูยุนดาเผยว่า การประมูลขายสัตว์ป่าครั้งนี้มีขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อจำกัดการสูญเสียชีวิตสัตว์ป่าซึ่งอดอยากขาดแคลนอาหาร เนื่องจากภัยแล้งทำให้ทุ่งหญ้าที่เป็นอาหารสัตว์ป่าร่อยหรอลงมาก และจะนำเงินที่ได้จากการประมูล ซึ่งตั้งเป้าไว้ที่อย่างน้อย 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 35 ล้านบาท) ไปใช้ในการอนุรักษ์สัตว์ป่าและบริหารจัดการผืนป่าหรือวนอุทยานแห่งชาติต่างๆ ที่ขาดแคลนงบประมาณอย่างหนัก
สัตว์ป่าที่จะถูกประมูลเป็นสัตว์ป่าที่ใช้ในฟาร์มผู้ให้บริการเกมล่าสัตว์ รวมทั้งควายป่าปลอดโรค 600 ตัว ช้าง 28 ตัว ยีราฟ 60 ตัว อิมพาลา 20 ตัว กวาง 65 ตัว และละมั่งแอฟริกาสายพันธุ์ต่างๆอีกจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลได้ลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ชักชวนผู้เข้าร่วมประมูลแล้วตั้งแต่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ รัฐบาลนามิเบียเพิ่งประกาศภาวะ “ภัยพิบัติแห่งชาติ” เมื่อเดือนที่แล้ว หลังสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติประเมินว่าบางพื้นที่ของประเทศเกิดภัยแล้งที่สุดในรอบ 90 ปี ก่อนหน้านี้ รัฐบาลนามิเบียเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติเพื่อต่อสู้ภัยแล้งซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนแล้วกว่า 500,000 คน และเมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลก็ประกาศจัดสรรงบประมาณอันน้อยนิดเพียง 39,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1,260,800 บาท) เพื่อบรรเทาภัยแล้งในปีนี้ โดยจะนำเงินไปอุดหนุน ซื้ออาหาร จัดหาถังเก็บกักน้ำ ช่วยเกษตรกรที่ยากจน