ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ เริ่มกลับสู่สถานการณ์ปกติอย่างช้าๆ หลังพายุแซนดี้พัดกระหน่ำ สร้างความเสียหาย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คนใน 9 รัฐ
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้ลงไปสำรวจพื้นที่เสียหายในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ร่วมกับผู้ว่าการรัฐ คริส คริสตี้ โดยใช้เวลาสำรวจ 1 ชั่วโมงก่อนเดินทางกลับ ขณะที่ศูนย์กลางการเงินของสหรัฐฯ ได้เปิดทำการอีกครั้งหลังจากปิดทำการ 2 วัน โดยมีไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์ก เป็นผู้เคาะระฆังเปิดตลาดหลักทรัพย์
ชาวนิวยอร์กส่วนใหญ่ต้องเดินทางไปทำงานโดยอาศัยรถบัส หรือรถแท็กซี่ แทนรถไฟฟ้าใต้ดินที่ได้รับความเสียหายรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ 108 ปี และคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้อย่างจำกัดในวันนี้ ส่วนสนามบินจอห์นเอฟเคนเนดี้ และนวร์ก ได้เปิดให้บริการอีกครั้งแบบจำกัด หลังจากต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายพันเที่ยว แต่สนามบินลากวาร์เดีย ซึ่งเป็นสนามบินใหญ่อันดับสามของนิวยอร์ก ยังคงมีน้ำท่วมขัง และต้องปิดให้บริการอีกวัน ส่วนปัญหาไฟฟ้าดับที่ส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันกว่า 8.2 ล้านคน ใน 17 รัฐ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการแก้ไข ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอีกหลายวัน หรือนานเป็นสัปดาห์
บริษัทประเมินความเสียหายเผยว่า ค่าความเสียหายจากพายุแซนดี้ เฉพาะในส่วนที่บริษัทประกันจะต้องรับผิดชอบอาจสูงถึง 10,000-30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 300,000-900,000 ล้านบาท
สำนักงานอากาศแห่งชาติสหรัฐฯ เผยว่า ขณะนี้ส่วนหางของพายุแซนดี้ยังคงลอยอยู่เหนือรัฐเพนซิลวาเนีย และคำเตือนพายุฤดูหนาวยังคงมีผลบังคับใช้ในพื้นที่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐเพนซิลวาเนีย ถึงฝั่งตะวันออกของรัฐเทนเนสซี
Credit: http://www.krobkruakao.com