รับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

รับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ชุมชนบ้านปากพญา ต.ท่าซัก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ต้องเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมซ้ำอีกครั้ง หลังจากช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน พ.ศ. 2554 ก็เพิ่งประสบกับภาวะอุกทกภัยจากพิษภัยของลมมรสุมที่พัดเข้าถล่มจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง

ระดับน้ำสูงจากพื้นดิน 1 เมตร เป็นเหตุการณ์ที่เพิ่ง ที่เคยเกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ชาวบ้านในชุมชนบอกว่าไม่เคยปรากฏมาก่อนนับแต่ปี พ.ศ. 2531 คราวที่น้ำท่วมกะทูน และส่งผลต่อชุมชนบ้านปากพญาอย่างหนัก หมู่บ้านปากพญามีประชากรกว่า100 หลังคาเรือนประกอบอาชีพทำนากุ้งบนที่ดินที่ได้รับการจัดสรรจากนิคมสหกรณ์ปากพญามากว่า 30 ปี กำลังประสบปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไปในช่วง 3-4 ปี ให้หลังจากสภาวะปริมาณน้ำฝนที่ตกเพิ่มขึ้นและผิดจากฤดูกาลในอดีต ประกอบกับปัจจุบันในช่วงเวลาน้ำหนุนจะมีปริมาณน้ำทะเลสูงกว่าเดิม ทำให้น้ำท่วมบ่อกุ้งได้รับความเสียหาย อีกทั้งผลกระทบที่เกิดจากการปิดกั้นคลองระบายน้ำจากบ่อกุ้งที่แต่เดิมมีมากกว่า 4-5 คลองลดเหลือเพียงคลองเดียว รวมน้ำเสียจากชุมชนเมืองที่ปล่อยลงมาตามคลองปากพญา

ทำให้วันนี้ชาวบ้านเริ่ม คิดหาแนวทางในการประกอบอาชีพใหม่ โดยหันไปศึกษาการทำเกษตรอย่างการทำสวนปาล์ม ในพื้นที่นากุ้งเดิม การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของชุมชนบ้านปากพญานั้น พบว่า เป็นการรวมกลุ่มของชาวบ้านทั้ง ในรูปแบบของกลุ่มออมทรัพย์ และศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงที่มีอยู่ในปัจจุบันจะเป็นต้นทุนที่สำคัญในการศึกษาและหาแนวทางในการตั้งรับ หรือปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี โดยควรมีการเพิ่มเติมความรู้ที่ส่งผลต่อการประกอบอาชีพของชาวบ้านทั้งในส่วนอาชีพเดิม อย่างช่วงเวลาที่เปลี่ยนไปของลมมรสุมต่อการเพาะเลี้ยงและเก็บเกี่ยวผลผลิตจากนากุ้ง และในส่วนของอาชีพเสริมหรืออาชีพใหม่อย่างสวนปาล์ม จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ทำให้เห็นว่าทิศทางการปรับตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของชุมชนบ้านปากพญาในอนาคต จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกันทั้ง จากชุมชนต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำของคลองปากพญา

Credit: มูลนิธิรักษ์ไท และชาวบ้านชุมชนบ้านปากพญา

หมายเหตุ : ทาง webmaster ต้องขออภัยอย่างสูงมา ณ. ที่นี้ ในส่วนที่มีเนื้อหาผิดพลาดในประเด็นของผู้ดำเนินการในพื้นที่

webmaster ขอเน้นย้ำอีกครั้งเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง " ชาวบ้านชุมชนบ้านปากพญา และมูลนิธิรักษ์ไท" เป็นผู้ดำเนินงานทั้งหมด

ขอแสดงความนับถือ