เชียงราย - เมืองพ่อขุนฯ ประกาศให้พื้นที่ 160 หมู่บ้าน ใน 7 อำเภอ เป็นเขตภัยพิบัติวาตภัยแล้ว หลังเจอพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำ 3 วันติด มีบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายมากถึง 2,600 หลังคาเรือน
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย วันนี้ (15 มี.ค.) ว่า หลังเกิดฝนตกหนักและพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำหลายพื้นที่ ล่าสุด นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย, นายเชษฐา โมสิกรัตน์ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย ได้สำรวจความเสียหาย พบพายุฤดูร้อนได้ส่งผลกระทบใน 160 หมู่บ้านทั่วจังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ 7 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.พาน อ.เทิง อ.แม่สาย อ.เชียงแสน อ.พญาเม็งราย อ.แม่ฟ้าหลวง มีบ้านเรือนที่เสียหายประมาณ 2,600 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่ฝาบ้านและหลังคาถูกลมพัดปลิวออกไปหรือแตกหักเสียหาย
นอกจากนี้ ยังพบว่า เสาไฟฟ้าในหลายพื้นที่หักโค่นล้มลงมาทับถนน เช่นเดียวกันต้นไม้ ป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์หลายแห่งถูกพัดกระจัดกระจาย ทำให้กระแสไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ และแม้ว่าช่วงคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะเร่งซ่อมแซมเสาไฟฟ้าหลังเกิดพายุ แต่ก็ยังต้องระดมกำลังออกซ่อมแซมในวันนี้ (15 มี.ค.) ตลอดทั้งวัน ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถใช้กระแสไฟฟ้าได้หลายตำบล
เสาไฟฟ้าที่หักโค่น เกิดขึ้นที่หน้าสำนักงานพัฒนาที่ จ.เชียงราย ต.นางแล อ.เมือง ติดถนนพหลโยธิน และถนนทางเข้าบ้านนางแลใน ต.นางแล รวมทั้งบนถนนสายแม่สาย-เชียงแสน พื้นที่ ต.ศรีเมืองชุม อ.แม่สาย พบมีเสาไฟฟ้าหักโค่นลงรวมกันประมาณ 20 ต้น แต่โชคดีที่ไม่มีรถที่สัญจรผ่านไปมาถูกล้มทับ แต่มีบ้านเรือนหลายหลังถูกต้นไม้และเสาไฟล้มทับจนเสียหายไม่สามารถอยู่อาศัยได้
เช่น บ้านเลขที่ 172 บ้านสันถนนใต้ ม.2 ต.ศรีเมืองชุมชน ของนางจันทร์เพ็ญ บุญรอด ถูกต้นไม้ล้มทับทั้งหลัง ,บ้านเลขที่ 114/2 บ้านสันถนนใต้ของบ้านศรีมา พรมโมครัด อายุ 74 ปี พบว่าหลังคาบ้านถูกพายุพัดออกไปเกือบหมดไม่สามารถอาศัยอยู่ได้
นายศรีมา กล่าวว่า ไม่เคยเกิดพายุลมพัดแรงเช่นนี้มาก่อน แต่ครั้งนี้พายุได้พัดกระหน่ำมาเริ่มจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือลงมาก่อนจากนั้นก็พัดหวนกลับมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้อีก ทำให้หลังคาทานกำลังลมไม่ได้และเปิดออก จากนั้นฝนและลูกเห็บกระหน่ำตกลงมาทำให้อาศัยอยู่ไม่ได้ต้องหนีไปอยู่บ้านญาติที่แข็งแรง ทิ้งข้าวของในบ้านเปียกและเสียหายเป็นจำนวนมาก
ด้าน นายเชษฐา กล่าวว่า จังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่ทั้ง 160 หมู่บ้าน เป็นพื้นที่ภัยพิบัติที่เกิดจากวาตภัย หรือลมพายุแล้ว และได้เร่งรัดให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกพื้นที่ที่เกิดเหตุ ได้เร่งช่วยเหลือชาวบ้าน ด้วยการส่งกำลังคนและจัดสรรงบประมาณลงไปเก็บข้าวของซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ประสบเหตุ และหากว่าท้องที่ใดไม่สามารถดำเนินการได้เพียงพอ ก็ให้เสนอไปยังจังหวัด เพื่อจะได้ใช้งบประมาณฉุกเฉินจากการประกาศเขตภัยพิบัติดังกล่าวลงไปช่วยเหลือเพิ่มเติมได้ต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพายุฤดูร้อนในพื้นที่ จ.เชียงราย เกิดขึ้นติดต่อกันมา 3 วันแล้ว คือ ตั้งแต่วันที่ 13-15 มี.ค.55 โดยมักเกิดขึ้นในช่วงเย็นโดยจะมีฝนตกหนักและพายุจะพัดแรงในบางพื้นที่ประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะสงบลงและทิ้งความเสียหายไว้ให้กับชาวบ้านที่เป็นทางผ่านของพายุ
ขอขอบคุณ http://www.manager.co.th