การวิเคราะห์ของนักวิชาการด้านภัยพิบัติ 2 คน บอกตรงกันว่า ประเทศไทยยังคงมีความเสี่ยงที่จะถูกน้ำท่วมได้อีกในปีนี้ และความเสี่ยงเกิดจากพายุที่อาจจะพัดเข้าสู่ประเทศไทย
ร.ศ.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร เปิดเผยว่าปีนี้ ปรากฏการณ์ลานินญ่าจะอ่อนลง ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีฝนน้อยลง ซึ่งปรากฏการณ์ลานินญ่า คือเหตุการณ์ที่อุณหภูมิในมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งประเทศไทยสูงขึ้น ขณะที่อุณหภูมิในมหาสมุทรฝั่งอเมริกาเย็นลง ลมจึงพัดพาความชื้นมาสู่ประเทศไทย และประเทศใกล้เคียง ทำให้เกิดฝนชุกในประเทศไทย อย่างเช่นปีที่ผ่านมา
ขณะที่ปีนี้ฝนมาเร็วกว่าปกติ ฝนจะเริ่มตกตั้งแต่ช่วงต้นปีฝนจะไปจนถึงเดือนพฤษภาคม พอถึงเดือนมิถุนายนก็จะเข้าสู่ภาวะฝนทิ้งช่วง ซึ่งน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ทำให้เกิดน้ำท่วม แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมได้ คือ พายุที่อาจจะพัดเข้าสู่ประเทศไทย จะเห็นได้ว่าปีที่ผ่านมา มีพายุพัดเข้ามา และส่งอิทธิพลต่อไทยถึง 5 ลูก แม้จะไม่รุนแรงมากแต่ก็ส่งผลให้เกิดน้ำท่วม แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถพยากรณ์ได้แน่นอนว่าจะมีพายุเข้าสู่ไทยอีกหรือไม่ การเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมจึงเป็นเรื่องจำเป็น
ขณะที่ศ.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยบอกตรงกันว่า ปีนี้จะเป็นลานินญ่าอ่อน หรือเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งไม่น่าจะทำให้มีฝนมากเท่ากับปีที่แล้ว แต่จากสถิติพบว่าในปีลักษณะเช่นนี้ มักจะเกิดพายุรุนแรง เช่น พายุโซนร้อน หรือไต้ฝุ่น ที่เกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ และพัดเข้าสู่ประเทศไทย อย่างเช่น พายุเกย์ในปี 2532 ปีถัดมาก็มีพายุอีก 2 ลูก เข้าสู่ภาคกลาง รวมทั้งปี 2539 และล่าสุดปี 2549 ซึ่งพายุพัดเข้าสู่ภาคกลางผ่านกรุงเทพมหานครในเดือนตุลาคม และทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในภาคกลางได้
ขอขอบคุณ http://news.thaipbs.or.th/