ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ประเมินว่า ปีนี้ไทยจะต้องเผชิญกับภาวะน้ำมาก และฝนมาเร็วอีกครั้ง เพราะมีทั้งปรากฏการณ์ลานินญาและลมสินค้าพัดเข้าสู่ประเทศไทยแรงกว่าปกติ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมได้
ข้อมูลของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตรระบุว่า สถานการณ์น้ำในปีนี้ยังคงเป็นปีที่มีน้ำมากอยู่ โดยปี 2554 มีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปกติ เพราะได้รับอิทธิพลจากทั้งปรากฏการณ์ลานินญา และลมจากทั้งฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกและอินเดียที่มีกำลังแรง มาปะทะกันในประเทศไทย จึงทำให้เกิดฝนตกหนักจากร่องความกดอากาศต่ำถึง 3 ครั้ง และได้รับอิทธิพลจากพายุที่พัดมาจากฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกอีก 5 ครั้ง แต่ปีนี้ลมจากฝั่งมหาสมุทรอินเดียอยู่ในภาวะปกติ ขณะที่ลมสินค้าจากฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกมีกำลังแรง เนื่องจากน้ำแข็งขั้วโลกละลายจากภาวะโลกร้อน ทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลมีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เกิดลมสินค้ากำลังแรงพัดเข้าสู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย พร้อมกับปรากฏการณ์ลานินญายังคงมีกำลังแรง ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่น้ำทะเลฝั่งประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงกว่าฝั่งสหรัฐฯ จึงเกิดลมพัดพาความชื้นเข้ามาตกในภูมิภาคนี้มากขึ้น ดังนั้นประเทศไทยอาจต้องเผชิญกับพายุที่มีความรุนแรงมากขึ้นกว่าปี 2554 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคใต้ ซึ่งจะมีลักษณะใกล้เคียงกับเมื่อปี 2549 ที่พายุช้างสารเคยส่งผลกระทบกับประเทศไทยอย่างหนัก และทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างในภาคกลางมาแล้ว
แม้ว่านายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร จะคาดว่า ฝนปีนี้จะมาก แต่ก็จะน้อยกว่า 2554 ทว่าสิ่งที่น่ากังวลก็คือการที่ทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดในที่ราบลุ่มภาคกลาง มุ่งสร้างพนังกั้นน้ำเพื่อป้องกันตนเองอยู่ในขณะนี้ อาจทำให้เกิดภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้น และอาจทำให้กรุงเทพมหานครเกิดภาวะน้ำท่วมขึ้นอีกครั้งได้ในปีนี้
ขอขอบคุณ http://news.thaipbs.or.th