ในสัปดาห์นี้ ทั่วไทยฝนก็ยังจะตกอย่างต่อเนื่อง เตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยง ระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสม ขณะที่วันนี้ ภาคกลาง-อีสาน ร้อนสุด แตะ 39 องศาฯ ...
วันที่ 6 มิถุนายน จากการตรวจสอบสภาพอากาศตลอดสัปดาห์นี้ กับระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี เดอะเวตเตอร์ คอมพานี พบว่ามีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมอยู่บริเวณอ่าวตังเกี๋ย และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ก็ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักในระยะนี้ ส่วนมากในจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร ตาก เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย สกลนคร ชัยภูมิ นครราชสีมา มุกดาหาร อุบลราชธานี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ดังนั้นประชาชนบริเวณดังกล่าวต้องระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมในระยะนี้ไว้ด้วย
ซึ่งจากการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมในเช้าวันนี้ พบว่าบริเวณทางตอนบนของประเทศมีเมฆค่อนข้างหนาตา โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน และพบกลุ่มเมฆฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ซึ่งภาคเหนือ มีเมฆมาก ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นต่ำ และเมฆชั้นสูง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆมาก ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นต่ำ และเมฆฟ้าคะนอง บริเวณ จ.หนองคาย, อุดรธานี , ชัยภูมิ ขอนแก่น, มุกดาหาร, กาฬสินธุ์, ขอนแก่น , อำนาจเจริญ, ยโสธร , ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม, นครราชสีมา , บุรีรัมย์, สุรินทร์ , ศรีสะเกษ , และ อุบลราชธานี, ภาคกลาง มีเมฆมาก ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นต่ำ และเมฆชั้นสูง
ภาคตะวันออก มีเมฆมาก ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นต่ำ และเมฆฟ้าคะนอง บริเวณ จ.สระแก้ว จันทบุรี และตราด และภาคใต้ มีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นต่ำและมีเมฆฝน ตรวจพบกลุ่มฝนบริเวณเกาะสมุย และชายฝั่งจังหวัดนครศรีธรรมราช
และจากการคาดการณ์สถานการณ์ฝนต่อจากนี้ ก็พบว่าช่วงสายกลุ่มฝนยังคงเน้นตกครอบคลุมในพื้นที่ภาคอีสาน และตกหนักบางพื้นที่บริเวณจังหวัดมหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร นอกจากนี้ยังพบกลุ่มฝนบริเวณภาคเหนือฝั่งตะวันตก และตอนล่าง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย อุตรดิตถ์ ช่วงเที่ยง กลุ่มฝนในภาคอีสานลดลง เหลือตกในบริเวณตอนกลางจนถึงตอนล่างของภาค และพบกลุ่มฝนตกเพิ่มบริเวณกาญจนบุรี เพชรบุรี ราชบุรี ช่วงบ่ายกลุ่มฝนลดลง มีตกในบริเวณภาคตะวันออกที่จังหวัดตราด ภาคเหนือ แม่ฮ่องสอนเชียงใหม่ ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ สุโขทัย กาญจนบุรี ราชบุรี และบริเวณภาคกลางตอนล่าง ส่วนช่วงเย็นถึงค่ำ จะกลับไปตกหนักอีกครั้งในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสานตอนบน รวมถึงบริเวณตอนกลางของภาคใต้ด้วย
สำหรับอุณหภูมิวันนี้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก จากฝนที่ตกลงมาเพิ่มขึ้นทำให้อุณหภูมิไม่สูงมากนัก สูงสุดเพียง 35 - 36 องศาเซลเซียส แต่บริเวณภาคกลาง ภาคอีสาน ค่อนข้างร้อน ช่วงบ่ายวันนี้สูงสุดไต่ไปอยู่ที่ประมาณ 39 องศาเซลเซียส ส่วนภาคใต้อุณหภูมิยังทรงๆ ใกล้เคียงกับช่วงที่ผ่านมา สูงสุดประมาณ 36 - 37 องศาเซลเซียส
ส่วนภาพรวมสภาพอากาศในวันนี้แต่ละภาค เป็นดังนี้
ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย สกลนคร ชัยภูมิ นครราชสีมา มุกดาหาร และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี และสุพรรณบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ โดยมีโอกาสตกประมาณ 16 เปอร์เซนต์ ในช่วงบ่ายถึงช่วงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39 องศาเซลเซียส
ที่มาของข่าวและภาพประกอบ : https://www.thairath.co.th/content/632712
