ชาวเท็กซัสต้องต้มน้ำก๊อกดื่ม – วันที่ 18 ก.พ. บีบีซี รายงานสถานการณ์พายุฤดูหนาวร้ายแรงที่พัดถล่มรัฐเท็กซัส ทางใต้ของสหรัฐอเมริกา จนกระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างว่า ประชาชนเกือบ 7 ล้านคน ในรัฐเท็กซัส ต้องต้มน้ำประปาก่อนบริโภค เนื่องจากโรงบำบัดน้ำเสียขาดกระแสไฟฟ้า
พายุฤดูหนาวลูกใหญ่พัดถล่มทั่วรัฐเท็กซัส คร่าชีวิตอย่างน้อย 21 ราย อุณหภูมิต่ำเป็นประวัติการณ์ในรอบมากกว่า 30 ปี ที่ 0 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ -18 องศาเซลเซียส และหลายล้านคนไร้กระแสไฟฟ้า เนื่องจากผู้คนพยายามรักษาความอบอุ่น จนแหล่งพลังงานของรัฐเท็กซัสล่มลง
อุณหภูมิเยือกแข็งยังทำให้ท่อน้ำระเบิดด้วย แม้ว่าผู้อยู่อาศัยจำนวนหนึ่งพยายามใช้ผ้าห่มหุ้มท่อน้ำหวังป้องกันความเย็นก็ตาม
โทบี เบเกอร์ หัวหน้าคณะกรรมการคุณภาพสิ่งแวดล้อมรัฐเท็กซัส ระบุว่า ปัญหาระบบน้ำประปาส่งผลกระทบต่อมากกว่า 260,000 คน ในรัฐเท็กซัส
ขณะที่ ซิลเวสเตอร์ เทอร์เนอร์ นายกเทศมนตรีนครฮูสตัน ขอให้ประชาชนปิดแหล่งจ่ายน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเต็มท่อและท่อระเบิดเมื่อน้ำกลายเป็นน้ำแข็ง นอกจากนี้ ประชาชนบ้านไหนไม่มีกระแสไฟฟ้า และไม่สามารถต้มน้ำก๊อกได้ ควรบริโภคแต่น้ำขวดเพื่อความปลอดภัย
“ไฟฟ้าจะยังไม่กลับมาอย่างเต็มรูปแบบ ผมจะบอกว่าบางทีอาจใช้เวลา 2 วัน” เทอร์เนอร์กล่าว
ปกติแล้ว บ้านเรือนจำนวนมากในรัฐเท็กซัสไม่ได้รับการหุ้มฉนวนกันอากาศเย็น ทำให้อุณหภูมิภายในร่มลดลงถึงจุดเยือกแข็งอย่างรวดเร็วหลังจากที่ระบบทำความร้อนล้มเหลว
เทอร์เนอร์กล่าวว่า สถานประกอบธุรกิจและโบสถ์ต่างๆ ถูกใช้เป็นศูนย์รวมความอบอุ่น เพื่อช่วยผู้พักพังที่มีความเปราะบางที่สุด พร้อมจัดหาน้ำขวดให้บรรดาผู้อยู่อาศัยด้วย
“เรายังอยู่ในห้วงพายุฤดูหนาว ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้ถนนหรือเดินทางตอนเช้าและตอนเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาอันตรายที่สุด” เทอร์เนอร์เตือน
ด้าน เกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ ชาวเท็กซัส 1.2 ล้านคน เข้าถึงกระแสไฟฟ้าอีกครั้ง ส่วนที่เหลือกำลังตามมา นอกจากนี้ ลงนามคำสั่งบริหารห้ามส่งก๊าซธรรมชาติออกนอกรัฐเท็กซัสจนถึง 21 ก.พ.
แอบบอตต์แถลงข่าวด้วยว่า มีการแบ่งกันใช้พลังงานทุกแหล่ง สวนทางกับถ้อนแถลงก่อนหน้าที่เคยโทษการใช้พลังงานหมุนเวียนทำให้กระแสไฟฟ้าดับ
เมื่อบ่ายวันพุธตามเวลาท้องถิ่น บริการอากาศแห่งชาติสหรัฐ (NWS) ระบุว่า พายุฤดูหนาวเลวร้ายที่สุดเคลื่อนตัวผ่านรัฐเท็กซัส แต่ชาวอเมริกันหลาย 100 ล้านคน ยังอยู่ภายใต้คำเตือนอากาศฤดูหนาว ส่วนอุณหภูมิต่ำเป็นประวัติการณ์จะอยู่ต่อไปอีกหลายวัน โดยหิมะปกคลุมมากกว่า 71% ของสหรัฐ
ที่มาและภาพประกอบ : https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_5979312