สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 7 มกราคมว่า คลื่นความหนาวเย็นที่ปกคลุมไปทั่วภูมิภาคยุโรปในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 20 ราย รายงานระบุว่า ที่ประเทศโปแลนด์ ซึ่งอุณหภูมิลดต่ำลงไปถึงติดลบ 14 องศาเซลเซียส มีรายงานผู้ที่หนาวตายถึง 10 ราย ส่วนที่รัสเซีย ชาวออโธดอกซ์ ต้องเฉลิมฉลองคริสต์มาสในวันเดียวกันท่ามกลางอุณหภูมิที่หนาวจัดที่สุดในรอบ 120 ปี
ที่ประเทศอิตาลี มีรายงานว่ามีหิมะตกลงมาอย่างหนัก ทั้งตอนกลางและทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ทำให้สนามบินหลายแห่งต้องปิดให้บริการในช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคม ขณะที่สำนักงานฉุกเฉินของกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก แจ้งว่า มีรายงานผู้เสียชีวิต 3 ราย โดยเป็นคนจรจัด 2 ราย และเจ้าหน้าที่ดูแลที่จอดรถ 1 ราย หลังค่ำคืนที่หนาวจัดที่สุดในช่วงฤดูหนาว
ส่วนที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย อุณหภูมิลดต่ำลงไปถึงติดลบ 30 องศาเซลเซียสในช่วงกลางคืน และที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งอุณหภูมิติดลบ 24 องศาเซลเซียส ตำรวจพบศพของชายคนหนึ่งที่เสียชีวิตเนื่องจากอากาศที่เย็นจัด
ขณะที่หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักในประเทศตุรกี ส่งผลทำให้นครอิสตันบูล เมืองใหญ่ของตุรกีต้องอัมพาต เนื่องจากหิมะที่ตกลงมาหนาถึงเกือบ 65 เซนติเมตร ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวบิน
ส่วนที่ประเทศกรีซ ที่เผชิญกับความหนาวตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องทำการอพยพผู้ลี้ภัยชาวซีเรียกว่า 60,000 คนไปยังที่ที่อบอุ่น โดยมีรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มกราคม อุณหภูมิในกรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของกรีซ ลดลงไปเหลือ 0 องศาเซลเซียส ขณะที่ทางตอนเหนือของประเทศมีอุณหภูมิติดลบ 15 องศาเซลเซียส
อ่านต่อที่ http://www.matichon.co.th/news/420117