บรรลุข้อตกลงโลกร้อน ที่ประชุมแก้ปัญหาโลกร้อนที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส สามารถบรรลุข้อตกลงโลกร้อนได้เป็นผลสำเร็จ โดยขอให้ทุกประเทศช่วยกันลดและกำจัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2558 เวลา 3:58 น. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่13ธ.ค.ว่าการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่21ที่กรุงปารีสฝรั่งเศส หรือที่เรียกว่าParis2015/COP21ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่30พ.ย.ที่ผ่านมาจนถึงวันเสาร์ที่ 12ธ.ค.ที่ผ่านมาฝรั่งเศสเจ้าภาพได้เสนอร่างข้อตกลงลดโลกร้อนให้195ประเทศที่เข้าร่วมประชุมได้พิจารณาจนบรรลุข้อตกลงและประกาศใช้เรียกว่า“ข้อตกลงปารีส” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาอุณหภูมิของโลกไม่ให้สูงขึ้นไปอีก1องศาเซลเซียส(1.8องศาฟาเรนไฮต์)ตั้งแต่ขณะนี้ไปจนถึงปี2643เงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ประเทศผู้ยากไร้ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและผลกระทบอื่นๆจากภาวะโลกร้อน เสียงปรบมือดังกึกก้องห้องประชุมหลังจากนายโลรองต์ ฟาบิอุสรัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสแถลงว่าประเทศสมาชิกได้ให้การรับรองข้อตกลงปารีสแล้วเพื่อให้ทุกประเทศช่วยกันลดและกำจัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขณะที่นายจอห์น แคร์รีรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่าถือเป็นชัยชนะของทุกคนทั่วโลกและคนรุ่นใหม่ในอนาคตส่วนนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกวันนี้เอาไว้ข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศถือเป็นความสำเร็จของโลกนี้และผู้คนข้อตกลงนี้มีผลบังคับให้ทุกประเทศต้องช่วยกันรักษาอุณหภูมิของโลกไม่ให้สูงขึ้นภายในปี 2643เทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรมซึ่งอุณหภูมิจะต้องต่ำกว่า2องศาเซลเซียส เลขาธิการสหประชาชาติยังกล่าวอีกว่าระดับน้ำทะเลที่นักวิจัยในเรื่องโลกร้อนระบุว่าการควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้น1.5องศาเซลเซียสแทนที่จะเป็น2องศาเซลเซียสจะช่วยลดลงได้ครึ่งหนึ่งของบ้านเรือนประชากร280ล้านคนที่มีสิทธิ์ที่จะถูกน้ำท่วมเพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ปี2558ถือว่าเป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ดังนั้นผู้นำจากทั่วโลกและนักวิทยาศาสตร์ต่างเรียกร้องให้บรรลุข้อตกลงลดโลกร้อนให้จงได้เพื่อรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้นไปอีกและผลกระทบจากภาวะโลกร้อนหากยังไม่มีมาตรการเร่งด่วนแล้วมนุษยชาติอาจเผชิญกับภัยแล้งรุนแรงน้ำท่วม พายุและระดับน้ำทะเลสูงจนท่วมเกาะและพื้นที่ชายฝั่งที่มีประชากรอาศัยอยู่หลายร้อยล้านคน“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/foreign/366675