สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ว่า พายุฤดูหนาวพัดกระหน่ำต่อเนื่องในภาคตะวันออกของสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีหิมะตกหนักในหลายพื้นที่ บางแห่งมีหิมะสะสมสูงถึง 61 เซนติเมตร โดยทางการรัฐเคนทักกีที่มีหิมะสูง 58 เซนติเมตร ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหลังสภาพอากาศเลวร้ายทำให้การจรจาจรบนทางหลวงระหว่างรัฐ 2 สายเป็นอัมพาต เที่ยวบิน 4,957 เที่ยวถูกยกเลิก โดยท่าอากาศยานในเมืองดัลลัสรัฐเท็กซัส กรุงวอชิงตัน เมืองฟิลาเดลเฟียในรัฐเพนซิลเวเนีย และนครนิวยอร์กได้รับผลกระทบหนักสุด โรงเรียนและสถานที่ราชการนับร้อยแห่งประกาศหยุดเป็นการชั่วคราว ขณะที่สภานิติบัญญัติในเขตดิสทริคออฟโคลัมเบีย รวมถึงที่ทำการรัฐนิวเจอร์ซีย์ เซาท์แคโรไลนา และเทนเนซซี ก็หยุดทำการด้วย
ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐได้ออกประกาศเตือนภัยพายุฤดูหนาวในพื้นที่แถบมิดเดิลแอตแลนติด นิวอิงแลนด์ตอนใต้ ทางตอนล่างของมิสซิสซิปปีวัลเลย์ รวมถึงทางตอนใต้ของแอปปาเลเชียนด้วย เจ้าหน้าที่เตือนให้ผู้สัญจรใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการใช้เส้นทางในแถบตอนล่างของมิสซิสซิปปีและมิดเดิลแอตแลนติก เนื่องจากน้ำแข็งและหิมะที่เริ่มละลายรวมกับสิ่งสกปรกบนพื้นผิวถนนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ คาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวออกสู่ทะเลในวันศุกร์ แต่อุณหภูมิจะยังคงหนาวเย็นรุนแรง โดยมีรายงานอุณหภูมิลดต่ำเป็นประวัติการณ์ในรัฐเทกซัส อาร์คันซอ ลุยเซียนา มิสซิสซิปปี เคนทักกี โอไฮโอ อิลลินอยส์ มิชิแกน แมริแลนด์ เวอร์จิเนีย เพนซิลเวเนีย และนครนิวยอร์ก โดยอุณหภูมิบนภูเขาแอดิรอนแดกในนิวยอร์กวัดได้ -33 องศาเซลเซียส ส่วนเมืองดีทรอยต์ในรัฐมิชิแกนอยู่ที่ -17 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติเดิม -16 องศาเซลเซียส เมื่อปี 2444 เช่นเดียวกับในเมืองออสตินของเทกซัสที่มีอุณหภูมิ -6 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติของปี 2554 ที่อยู่ที่ -2 องศาเซลเซียส ขณะที่ในเช้าวันนี้สถานการณ์ด้านขนส่งทางอากาศเริ่มดีขึ้น มีเที่ยวบินถูกยกเลิกเพียง 800 เที่ยวบิน.
Credit : http://www.dailynews.co.th