สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเซาเปาลู ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ว่า เมืองเซาเปาลู เมืองใหญ่ที่สุดของบราซิลที่มีประชากรราว 20 ล้านคน กำลังประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรง ระดับน้ำในระบบชลประทานลดลงต่ำจนถึงขั้นวิกฤตตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว โดยปริมาณน้ำสำรองฉุกเฉินถูกใช้ไปราว 2 ใน 3 ส่วนของที่มีอยู่
นางมารุซเซีย เวทลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ จากองค์กรอินสติตูโต โซชัมเบียนทัล หน่วยงานอิสระด้านสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า หากอัตราการใช้น้ำและปริมาณน้ำฝนยังคงที่เหมือนที่ผ่านมา น้ำสำรองที่กักเก็บไว้จะมีใช้เพียงพอไปอีกอย่างมากที่สุดแค่ 60 วัน ซึ่งในความเป็นจริงระยะเวลาอาจน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากน่าจะมีปริมาณความต้องการใช้น้ำเพิ่มสูงขึ้น ในช่วงวันหยุดคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้
ภาวะแห้งแล้งในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิลในปีนี้ นับว่ารุนแรงที่สุดในรอบอย่างน้อย 80 ปี ซึ่งส่งผลถึงระดับน้ำที่ลดต่ำลงในแม่น้ำและแหล่งน้ำสำรองหลายแห่ง โดยนายอันโตนิโอ โนเบร นักวิทยาศาสตร์ผู้ทำการศึกษาด้านสภาพภูมิกาศ จากสถาบันวิจัยอวกาศแห่งชาติของบราซิล กล่าวว่า สภาวะแห้งแล้งที่รุนแรงขึ้นในบราซิล เป็นผลมาจากภาวะโลกร้อนและการทำลายป่าอะเมซอน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อปริมาณน้ำฝนและน้ำที่ป่าฝนจะช่วยกักเก็บได้.
Credit : http://www.dailynews.co.th