สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ภาวะคลื่นร้อนได้โจมตีอาร์เจนตินาอย่างหนัก และส่งผลให้มีประชาชนสังเวยชีวิตกว่า 7 รายแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคนชรา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า ภายใต้ภาวะดังกล่าว เมืองซานเตียโก้ เดล เอสเตโร และจังหวัดอื่นๆ ทางตอนเหนือของอาร์เจนติน่า มีอุณหภูมิร้อนหนักถึงกว่า 45 องศาเซลเซียส โดยมีประชาชนหลายร้อยคน ในเมืองซานเตียโก้ฯ ต้องการความช่วยเหลือจากแพทย์เพราะป่วย และแพทย์ได้เตือนประชาชนให้อยู่แต่ในบ้านในช่วง ชม.อากาศร้อนสุด นอกจากนี้ ระบบไฟฟ้าของประเทศยังล่มขัดข้องเพราะประชาชนใช้ไฟฟ้าอย่างสูง โดยเฉพาะการเปิดแอร์เพื่อคลายร้อนหนัก ส่วนไอศกรีม และสินค้าหลายอย่างต่าง ๆ ปรากฎว่า สินค้าหมดสต๊อกเพราะผู้คนซื้อไปกินแก้กระหายและดับร้อน ส่วนกรมอุตุนิยมวิทยาอาร์เจนตินาระบุว่า ถือเป็นภาวะคลื่นร้อนเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศนับตั้งแต่ปี 1906
นอกจากนี้ ประชาชนจำนวนมากยังก่อเหตุประท้วงรัฐบาลที่ขาดมาตรการรองรับปัญหาวิกฤตร้อนจัดด้วย เนื่องจากบางเมืองต้องขาดไฟฟ้าใช้มาแล้วกว่าสองสัปดาห์ โดยผู้ประท้วงได้พากันจุดไฟเผาขยะและยางรถยนต์บนท้องถนน ทำให้การจราจรติดขัด และผู้คนจำนวนมากไม่สามารถกลับบ้านได้ในช่วงเทศกาลฉลองปีใหม่
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เกิดเหตุค้างคาวนับแสนตัวตายเกลื่อนเพราะภาวะคลื่นร้อนจัดในเมืองต่างๆ ของรัฐควีนส์แลนด์ ของออสเตรเลีย โดยค้างคาวเหล่านี้ได้ร่วงตกจากท้องฟ้าลงมาตายเกลื่อนเป็นจำนวนมาก พร้อมส่งกลิ่นเน่าเหม็นไปทั่วเมืองต่างๆ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวยังคล้ายภาพยนตร์ฮอลลีวูดบางเรื่อง
ด้านผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า อากาศในเมืองนี้อยู่ที่ระดับ 43 องศาเซลเซียส ซึ่งร้อนมากจนทำให้ค้างคาวบินไม่ไหวและร่วงลงมาตาย ส่วนด้านผู้เชี่ยวชาญได้เตือนประชาชนอย่าไปแตะค้างคาวเหล่านี้ เพราะอาจสัมผัสเชื้อไวรัส หรือถูกกัดและข่วนจากค้างคาวที่ยังไม่ตายได้ ซึ่งที่ผ่านมา มีประชาชนกว่า 16 รายต้องรับการฉีดยารักษาแล้ว หลังจากเข้าไปสัมผัสค้างคาวเหล่านี้
Credit : http://www.matichon.co.th