สถานการณ์ภัยพิบัติหนาวในสหรัฐฯดีขึ้นเล็กน้อย เพราะอุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น ขณะที่ ทวีปละตินอเมริกาเผชิญสภาพอากาศร้อนจัด จนเจ้าหน้าที่ดูแลสวนสัตว์ต้องนำผลไม้แช่แข็งมาคลายร้อนให้สัตว์
สำนักงานอุตุนิยมแห่งชาติของสหรัฐฯรายงานว่า สภาพอากาศที่หนาวจัดแบบสุดขั้วจะเริ่มคลายความรุนแรงในวันนี้ (9 ม.ค.) เนื่องจากมวลอากาศเย็นไหลย้อนกลับสู่แคนาดา ประกอบกับกระแสลมเริ่มลดความรุนแรงส่งผลให้อุณหภูมิจะเริ่มอุ่นขึ้นเล็กน้อย หลังอุณหภูมิดิ่งฮวบเป็นประวัติการณ์ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา และบางพื้นที่มีอุณหภูมิลดลงต่ำสุดในรอบศตวรรษ ทำให้โรงเรียน และบริษัทต่างๆต้องปิดทำการชั่วคราว รวมทั้งต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 18,000 เที่ยว ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 คน เนื่องจากอากาศหนาวจัด บางคนเสียชีวิต เพราะอุณหภูมิร่างกายลดต่ำเกินไป และบางคนเสียชีวิต เพราะประสบอุบัติเหตุบนถนน
อย่างไรก็ตาม บางพื้นที่ของสหรัฐฯ ยังเผชิญอากาศที่หนาวเย็น ท่อส่งน้ำประปาในเมืองดันวูดี้ ของรัฐจอร์จเจียแตกและกลายสภาพเป็นน้ำแข็งปกคลุมไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ก็เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้ในหลายเมืองของสหรัฐ บางแห่งน้ำที่แตกทะลักออกจากท่อกลายเป็นน้ำแข็งปกคลุมผิวถนน ทำให้รถยนต์หลายคันติดน้ำแข็งอยู่บนถนน ซึ่งมีสภาพไม่ต่างจากลานสเกตน้ำแข็ง เจ้าหน้าที่และชาวบ้านต้องช่วยกันเคลื่อนย้ายรถยนต์ออกจากน้ำแข็งด้วยความยากลำบาก
ส่วนที่นครนิวยอร์คก็ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวจัดติดต่อกันเป็นวันที่สอง ทำให้ชาวเมืองที่ออกไปทำงานและทำธุระนอกบ้านต้องเจอกับความหนาวเย็น จากอุณหภูมิที่ลดลงไปติดลบถึง 12 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิที่สวนสาธารณะเซนทรัล ปาร์ค ลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ติดลบถึง 16 องศาเซลเซียส
ในขณะที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญสภาพอากาศที่หนาวแบบสุดขั้ว แต่ทวีปละตินอเมริกากลับร้อนจัดจากคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุม ท่ามกลางอุหภูมิที่พุ่งสูงถึง 49 องศาเซลเซียส สวนสัตว์ในนครริโอ เดอ จาเนโร ของบราซิลต้องคลายร้อนให้สัตว์ด้วยการแจกผลไม้แช่ในก้อนน้ำแข็งให้กิน ซึ่งก็มีทั้งสตอเบอร์รี่แช่แข็งของหวานแสนโปรดของหมี กอริลลา และกล้วยแช่แข็งสำหรับช้าง
ส่วนที่กรุงบัวเอโนสไอเรส ของอาร์เจนตินา เจ้าหน้าที่เร่งเก็บซากปลาที่ลอยเกลื่อนทะเลสาบในสวนสาธารณะ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด มีผลต่อปริมาณอ๊อกซิเจนในน้ำลดลง
Credit : http://news.thaipbs.or.th