เอเจนซีส์ – พายุไซโคลน “ไพลิน” ซึ่งมีกำลังรุนแรงมาก ขึ้นบกที่บริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกของอินเดียแล้วในตอนดึกวันเสาร์ (12 ต.ค.) จากนั้นก็เคลื่อนตัวสร้างความเสียหายแก่รัฐโอริสสา และรัฐ อานธรประเทศ 2 รัฐชายฝั่งในพื้นที่ดังกล่าวของอินเดีย อย่างไรก็ตาม จากการเตรียมตัวรับมือด้วยการอพยพผู้คนครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของแดนภารตะ ได้ช่วยลดการสูญเสียลงเป็นอย่างมาก โดยพบผู้เสียชีวิต 17 รายเท่านั้น
ทีมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินของอินเดีย เมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ได้เริ่มประเมินความเสียหายจากพายุไซโคลนลูกที่มีกำลังรุนแรงที่สุดในรอบ 14 ปี พร้อมกับที่การปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ ก็ได้นำอาหารแจกจ่ายแก่ผู้อพยพออกจากบ้านเรือนชั่วคราว ซึ่งจำนวนราว 1 ล้านคน ตลอดจนทำการเก็บกู้ถนน และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
เป็นที่คาดว่า พายุไซโคลนไพลินจะค่อยๆ อ่อนกำลังลงภายใน 36 ชั่วโมง หลังจากขึ้นจากอ่าวเบงเกล ตรงบริเวณเมืองโกปัลปุระ รัฐโอริสสา เมื่อตอนดึกวันเสาร์ (12) พร้อมหอบลมที่มีความเร็วกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เข้ากระหน่ำทำลายบ้านเรือนและถอนรากถอนโคนต้นไม้ อย่างไรก็ดี พอถึงเช้าวันอาทิตย์ (13) ฝนเริ่มเบาลง และความเร็วลมของไซโคลนลูกนี้ก็ลดเหลือ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พื้นที่ส่วนใหญ่ในรัฐโอริสสายังคงไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นวันที่ 2 ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของอินเดียกล่าวว่า พบผู้เสียชีวิตทั้งหมดแล้ว 17 ราย จำนวนมากถูกต้นไม้ที่โค่นล้มหล่นทับ หรือผนังกระท่อมที่ทำจากโคลนตากแห้งพังถล่มลงมา กระนั้น ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินความเสียหายอย่างแม่นยำ รวมทั้งยังอาจจะพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงชายฝั่งซึ่งถูกพายุกระหน่ำรุนแรงที่สุดได้มากขึ้น
ไซโคลน “ไพลิน” นับเป็นพายุใหญ่ 1 ใน 3 ลูกที่กำลังเล่นงานและคุกคามทวีปเอเชียในวันอาทิตย์ โดยอีกสองลูกคือไต้ฝุ่น “นาริ” ที่เคลื่อนออกจากฟิลิปปินส์ภายหลังทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 คน โดยมุ่งหน้าสู่เวียดนาม และไต้ฝุ่น “วิภา” ซึ่งกำลังก่อตัวเหนือหาสมุทรแปซิฟิก
Credit : http://www.manager.co.th