สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ซึ่งเคยเผชิญกับพายุเฮอริเคน “แซนดี้” มาแล้วเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว จนก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงนั้น ต้องมาเผชิญกับพายุหิมะอีกครั้ง เช่นบริเวณชายฝั่งของเขตนิวอิงแลนด์ วัดปริมาณของหิมะที่ตกลงมาได้สูง 3 ฟุต รวมทั้งกระโชกรุนแรงระดับพายุเฮอริเคน แต่โชคดีที่พายุหิมะได้เคลื่อนตัวขึ้นเหนือไปยังพื้นที่ 3 รัฐของแคนาดา ระบบการสัญจรทั้งทางอากาศ ทางบก และ ทางรถไฟ กลายเป็นอัมพาต ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว
ผลจากลมกระโชกแรงและพายุหิมะ ทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่นลงมา ประชาชนราว 6.5 แสนคน ไม่มีไฟฟ้าใช้ เช่นที่รัฐแมสซาชูเซตส์ 400,000 คน รัฐโรด ไอร์แลนด์ 187,000 คน และ คอนเนคติกัต 35,000 คน เป็นต้น
นอกจากนั้นยังมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 ศพ เช่น หญิงสาวคนหนึ่งขับรถบนทางหลวงที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในเมืองพัคคีพซี รัฐนิวยอร์ก จนพลิกคว่ำข้างทาง เสียชีวิต แล้วยังไปชนกับชายวัย 74 ปี ซึ่งกำลังเดินอยู่บนไหล่ถนนจนเสียชีวิต, ที่เมืองออเบิร์น รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ชายผู้หนึ่งขับชนต้นไม้จนเสียชีวิต, ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ เด็กชายวัย 11 ปี เสียชีวิตขณะที่เขากับพ่อลงไปอุ่นเครื่องรถยนต์ และสูดเอาแก๊สคาร์บอน มอนอกไซด์ เข้าไป เพราะท่อไอเสียไม่ทำงานหลังถูกหิมะจนแข็ง นอกจากนั้นยังมีรายงานอีก 4 ศพที่เสียชีวิตเพราะสภาพอากาศในรัฐคอนเนคติกัต
ส่วนอุบัติเหตุที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย เป็นอุบัติเหตุรถชนกัน 19 คัน บนทางหลวงระหว่างรัฐหมายเลข 295 เมืองฟัลมัธ รัฐเมน เนื่องจากทัศนวิสัยเลว และ ถนนลื่น ซึ่งทางสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติเตือนว่า การเดินทางในช่วงเวลาขณะนี้ยังถือว่าเป็นอันตรายอยู่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ เคยเผชิญกับพายุเฮอริเคน “แซนดี้” มาแล้วเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิต 132 ศพในรัฐนิวยอร์ก และ นิวเจอร์ซีย์ มูลค่าความเสียหายประมาณ 71,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Credit: http://www.dailynews.co.th