เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตซูเปอร์สตอร์ม “แซนดี้” ในสหรัฐฯ และแคนาดา เพิ่มขึ้นเป็น 43 รายและคาดหมายว่าตัวเลขอาจสูงกว่านี้เนื่องจากมีอีกหลายคนที่ยังสูญหาย ขณะที่ประธานาธิบดีโอบามา เตือนวิกฤตยังไม่จบแม้พายุอ่อนกำลังลง ท่ามกลางความยุ่งเหยิงด้านการคมนาคม โดยเฉพาะการสัญจรทางอากาศที่ต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 16,000 เที่ยวแล้ว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญประเมินความเสียหายจากภัยพิบัติครั้งนี้อย่างต่ำๆ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่ตามมลรัฐต่างๆ ของอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นคอนเนตทิคัต นิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ แมรีแลนด์ เพนซิลเวเนีย เวสต์เวอร์จิเนียและนอร์ทแคโรไลนา ต่างรายงานพบผู้เสียชีวิตในพื้นที่จากพายุอันกราดเกรี้ยว และด้วยที่เฮอริเคนแซนดี้ คร่าชีวิตผู้คนอย่างต่ำ 67 ราย ตอนที่ถาโถมเข้าเล่นงานประเทศต่างๆ แถบแคริบเบียนไม่กี่วันก่อนหน้านี้ นั่นหมายความว่ายอดผู้เสียชีวิตจากฤทธิ์ของแซนดี้ทะลุเกิน 100 ศพแล้ว
แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการมลรัฐนิวยอร์ก เผยได้รับแจ้งเหตุคนตายเกี่ยวข้องกับพายุ 23 ศพ ในจำนวนนั้น 10 คน ต้องจบลงชีวิตลงตอนที่เฮอร์ริเคนแซนดี้ซัดถล่มนิวยอร์กซิตี้ “น่าเศร้า เราคาดหมายว่าตัวเลขอาจสูงกว่านี้” ไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนิวยอร์กกล่าวเสริม
ในนิวเจอร์ซีย์ พบผู้เสียชีวิต 3 ราย ในนั้นเป็นพ่อแม่คู่หนึ่งที่รถยนต์ถูกต้นไม้โค่นลงมาทับ ขณะที่ลูกๆ 2 คน อายุ 11 กับ 14 ปี ที่อยู่ในรถด้วยตอนที่เกิดเหตุรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
คริส คริสตี ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ระบุว่า ตอนนี้ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยยังดำเนินต่อไป โดยได้แยกทีมงานออกเป็น 3 จุดประจำการในเมืองแอตแลนติก ซิตี เมืองกาสิโนริมชายฝั่ง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับจุดที่พายุซัดขึ้นฝั่งเมื่อวันอังคาร (30)
พบผู้เสียชีวิต 4 รายในเพนซิลเวเนีย ในนั้นหนึ่งคนถูกต้นไม้โค่นลงมาทับ ส่วนอีกคนจมอยู่ใต้ซากหักพังของบ้าน จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะที่ แดน เมลลอย ผู้ว่าการมลรัฐคอนเนตทิคัต บอกว่าภายในรัฐมีผู้เสียชีวิต 2 คนและสูญหาย 2 ราย ด้านที่อื่นๆตามชายฝั่งตะวันออกนั้น พบผู้เสียชีวิต 1 ราย และสูญหาย 1 คนในแคโลไรนา ส่วนในแมรีแลนด์และ เวสต์เวอร์จิเนีย พบผู้เสียชีวิตมลรัฐละคน
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติบอกว่า แซนดี้อ่อนกำลังลงตั้งแต่เช้าวันอังคาร (30) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะเคลื่อนตัวเข้าแผ่นดินใหญ่ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ ทว่ากำลังพายุยังคงก่อให้เกิดลมกระโชกแรง และน้ำท่วมในหลายพื้นที่
ในเรื่องนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็เตือนเมื่อวันอังคาร (30) ว่าวิกฤตที่มีต้นตอจากซูเปอร์สตอร์มแซนดี้ยังไม่จบ และประกาศทำทุกทางเพื่อจัดการกับหายนภัยนี้ “พายุนี้ยังไม่ผ่านพ้น” โอบามาเตือนระหว่างเยือนศูนย์อำนวยการของกาชาดอเมริกาในกรุงวอชิงตัน พร้อมปลอบใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบว่า “จงรู้ไว้ว่า อเมริกาจะอยู่เคียงข้างคุณ”
นอกจากนี้ โอบามา ยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางเข้าจัดการกับพายุลูกนี้ด้วยการลดขั้นตอนต่างๆทางราชการให้กระชับยิ่งขึ้น เพื่อสามารถเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลายล้านคนอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าสหรัฐฯ เตือนถึงภัยคุกคามต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างคาดไม่ถึง และมีคำสั่งชาวบ้านหลายแสนคนตั้งแต่นิวอิงแลนด์ไปจนถึงนอร์ทแคโรไลนา อพยพออกจากบ้านและไปหลบภัยตามศูนย์พักพิงชั่วคราวต่างๆ
พายุลูกนี้ที่กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตก ได้ทิ้งร่องรอยความวิบัติสูญเสียเอาไว้เบื้องหลัง ทั้งบ้านเรือนที่จมอยู่ใต้น้ำ, ต้นไม้ที่โค่นล้มระเนระนาด และสายไฟฟ้าที่ตกลงมาเกลื่อน เมื่อแซนดี้ก่อให้เกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรงน่าหวาดหวั่นและกระแสลมกระโชกเกรี้ยวกราดตลอดทั่งทั้งอีสต์โคสต์ (ชายฝั่งด้านตะวันออกของสหรัฐฯ)
บริษัทประเมินความเสียหายจากภัยพิบัติ อีเควแคต (Eqecat) ประเมินว่าพายุลูกนี้จะส่งผลกระทบต่ออเมริกันชนมากกว่า 60 ล้านคน หรือ 1 ใน 5 ของพลเมืองทั้งประเทศ และก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจราวๆ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เที่ยวบินมากกว่า 16,000 เที่ยวซึ่งบินขึ้นลงบรรดาสนามบินสำคัญต่างๆ ทางแถบอีสต์โคสต์ถูกยกเลิก นับตั้งแต่แซนดี้เริ่มซัดกระหน่ำแถบอีสต์โคสต์ตั้งแต่วันอาทิตย์ (28) ที่ผ่านมา และคาดหมายว่าโปรแกรมการบินจะไม่เข้าสู่ภาวะปกติอย่างเร็วที่สุดไปจนถึงเช้าวันพฤหัสบดี (1)
ด้านตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ แถลงจะเปิดทำการอีกครั้งในวันพุธ (31) หลังจากอิทธิพลของเฮอริเคนแซนดี้ ทำให้ต้องปิดทำการ 2 วัน ซึ่งถือเป็นการปิดทำการกรณีพิเศษครั้งแรกนอกเหนือจากวันหยุดราชการนับตั้งแต่เหตุการณ์ 9/11 ปี 2001 เลยทีเดียว
Credit: http://www.manager.co.th