อากาศร้อนขึ้น น้ำระเหยมากขึ้น หรือระเหยน้อยลง

Wednesday, 02 January 2019 Read 5152 times Written by 

syn12

 

อากาศร้อนขึ้น น้ำระเหยมากขึ้น หรือระเหยน้อยลง

หน้าฝนน้ำท่วม หน้าร้อนน้ำแล้ง อะไร ๆ ก็ดูจะเกิน ๆ ไปในทางตรงข้ามกับความต้องการของเรา  ถ้ามีน้ำมาก ๆ แล้วเราเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งได้เพียงพอก็ดีน่ะสิ  แต่...ถ้าเก็บน้ำไม่ถูกวิธี และอากาศร้อน น้ำก็จะระเหยหายไป ต่อให้ฝนตกหนักก็ไม่ได้แปลว่าจะเก็บน้ำไว้ใช้ได้มาก

การที่น้ำระเหยไปนี้ นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า การคายระเหย  การคายระเหยของน้ำที่ระดับผิวดินเป็นส่วนประกอบสำคัญยิ่งในวัฏจักรของอุทกวิทยา เมื่ออัตราการระเหยน้ำมากขึ้น ระบบนิเวศจะสูญเสียน้ำไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ฝนตกบ่อยขึ้นเนื่องจากไอน้ำในบรรยากาศควบแน่นเป็นฝนไวขึ้น  จึงส่งผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น ฝนตกหนักจนเกิดน้ำไหลบ่าและน้ำท่วม หน้าดินถูกชะล้างพังทลาย น้ำในแหล่งน้ำต่าง ๆ ขุ่นมากขึ้น พืชคายน้ำมากขึ้นจนพืชขาดน้ำ และมีปัญหาอื่น ๆ อีก   เดิมทีคาดว่าการเกิดภาวะโลกร้อนซึ่งทำให้อุณหภูมิอากาศเฉลี่ยรายปีสูงขึ้นจะทำให้อัตราการระเหยน้ำมากขึ้น  แต่นักวิทยาศาสตร์พบว่า ตั้งแต่ ค.ศ. 1950 เป็นต้นมา แนวโน้มของค่าการระเหยน้ำของหลายประเทศมีค่าลดลงตั้งแต่ 1 – 4 mm a-2 (i.e.. mm per annum per annum) เช่น สหรัฐอเมริกา รัสเซีย แคนาดา จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย และอิตาลี  ซึ่งเป็นความย้อนแย้งของค่าการระเหยน้ำ หรือ ‘Pan evaporation paradox’  ซึ่งการเปลี่ยนแปลงไม่สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิอากาศและขัดแย้งกับหลักทฤษฎีที่ว่า ความชื้นของอากาศหรือไอน้ำ จะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ เนื่องจากมวลอากาศแห้งจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นมีจุดอิ่มตัวของความดันไอสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ชั้นบรรยากาศมีความสามารถในการรองรับความชื้นและไอน้ำเพิ่มขึ้น

นักวิจัยศึกษาอัตราการระเหยน้ำของประเทศไทย จากสถานีตรวจวัดอากาศ 28 แห่ง ตั้งแต่ ค.ศ.  1970 – 2007 พบว่าอัตราการระเหยน้ำรายปีค่อย ๆ ลดลง โดยมีค่าเฉลี่ย 7.7 mm a-2    ส่วนอุณหภูมิบรรยากาศเฉลี่ยรายปีสูงขึ้น 0.91 องศาเซลเซียส (0.024 องศาเซลเซียสต่อปี)  เมื่อพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องพบว่าอัตราการระเหยน้ำรายปีที่ลดลง น่าจะมาจากความเร็วลมที่ลดลง และบางส่วนมาจากช่วงเวลาที่มีแดดลดลง  ในขณะที่แรงดึงน้ำระเหยของอากาศมีค่าเพิ่มขึ้นและความชื้นสัมพันธ์มีค่าคงที่ ซึ่งไม่มีผลต่อค่าอัตราการระเหยน้ำ 

ผลวิจัยนี้ตรงข้ามกับความคาดหมาย  การเปลี่ยนแปลงในระดับท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับอากาศพลศาสตร์และปริมาณรังสีจากดวงอาทิตย์ จะส่งผลต่อวัฏจักรน้ำและเชื่อมโยงถึงการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ซึ่งมีผลกระทบต่อสังคมและธรรมชาติในประเทศไทย แต่จะมีผลอย่างไรบ้างนั้น จำเป็นต้องศึกษาวิจัยกันต่อไป

อ้างอิง : Limjirakan, S., & Limsakul, A. (2012). Trends in Thailand pan evaporation from 1970 to 2007. Atmospheric Research, 108, 122-127.  

Photo by Climate News Network

โครงการ

โครงการบรรเทาการปลดปล่อยก๊าชเรือนกระจก จากภาคเกษตรด้วยสารยับยั้งไนตริฟิเคชั่น
ชุดโครงการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย
โครงการพัฒนาโมเดลต้นแบบ การจัดการขยะชุมชนต้านภัยโลกร้อนระดับจังหวัด
โครงการพัฒนาดัชนีความร้อน และการประยุกต์ใช้ศึกษาคลื่นความร้อนในประเทศไทย
ซอฟต์แวร์ประมวลผลปริมาณคาร์บอนในป่าและต้นไม้
ชุดโครงการศึกษาความตระหนักรู้และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยในบริบทของความตกลงปารีส

เครื่องมือ

โปรแกรมประมวลผลดัชนีความร้อน สำหรับประเทศไทย
โปรแกรมการวิเคราะห์ และประมวลผลดัชนีความล่อแหลมจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภัยพิบัติในระดับจังหวัดและท้องถิ่น
ระบบเตือนภัยความร้อนและหมอกควัน
MCCAI ดัชนีการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของเทศบาล
GHG-3Rs
แบบสอบถามออนไลน์: CCAI

ดัชนี

Ncar
Ncar
SOI Annual
Multivariate ENSO
Indian Summer and Western North Pacific Monsoon Index
Blank

ปริมาณคาร์บอน

ปริมาณคาร์บอน
ปริมาณคาร์บอนทั่วโลก
index-carbon
Carbon Market
Point Carbon
Blank

ภูมิปัญญา

Biogas
ภูมิปัญญา
ระบบข้อมูลพื้นที่สีเขียวและป่านิเวศในเมือง
โครงการศึกษาผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อยางพาราในประเทศไทย
Blank
Blank