ถึงแม้ช่วงนี้ฝนจะตกบ่อยเพื่อย้ำเตือนให้ผมรู้ว่าเป็นหน้าฝน แต่ฝนก็ไม่สามารถบังคับให้ผมอยู่แต่ในบ้านได้ ผมจึงได้เดินทางขึ้นไปเที่ยวทางภาคเหนือหลายแห่งและหลายเมือง การได้ท่องเที่ยวหน้าฝนทำให้รู้ว่าต้นไม้แต่ละต้นที่ผมได้พบเห็น มีหน้าตาเบิกบาน สดชื่น ไม่หน้าหงิกงอเหมือนตอนหน้าแล้ง อีกทั้ง หลังฝนหยุดตกอากาศจะเย็นสบาย หายใจเย็นจมูก แล้วยังได้เห็นท้องฟ้าแจ่มใสอีกต่างหาก ที่ลำปาง ผมได้ไปที่บริเวณโรงไฟฟ้าแม่เมาะด้วย เพราะคนที่นั่นบอกว่า ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งของเมืองลำปางที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปขบเคี้ยวกลืนกินอากาศบริสุทธิ์ ไม่น่าเชื่อว่า ในบริเวณโรงไฟฟ้าแม่เมาะในปัจจุบัน เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยนานาชนิด อีกทั้งยังถูกตกแต่งด้วยสนามหญ้า ต้นดอกไม้ สวนหย่อมไว้อย่างสวยงาม เป็นเหมือนสวนสาธารณะขนาดใหญ่ น่าจะเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อากาศก็สดชื่น มองไกลออกไปจะเห็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ทำให้ได้บรรยากาศความรู้สึกไปอีกอย่างที่ไม่เหมือนกับนั่งอยู่ที่สวนลุมพินีที่เห็นป่าคอนกรีตประดับฉากหลัง ผมได้รับทราบจากพนักงานของโรงไฟฟ้าแม่เมาะว่า ถึงแม้เป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินก็จริง แต่สมัยนี้มีเทคโนโลยีทันสมัยสามารถกำจัดมลพิษได้อย่างหมดจด มิน่า จึงมีผู้คนขับรถพาลูกเล็กเด็กแดงมาพักผ่อนกันค่อนข้างมาก หลายปีก่อน ผมก็เคยมายังสถานที่แห่งนี้ในช่วงเดือนธันวาคม ได้เห็นดอกบัวตองสีเหลืองบานสะพรั่งบนเนื้อที่หลายสิบไร่ด้วยความตื่นตา เพราะไม่รู้มาก่อนว่าที่นี่ก็มีทุ่งดอกบัวตองเหมือนกับที่ดอยแม่อุคอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน แสดงให้เห็นว่าต้นไม้นี้ช่วยได้จริง ๆ คือช่วยให้ทุกแห่งในเมืองไทยมีบรรยากาศดีขึ้น ขณะผมพักอยู่ที่โรงแรมในตัวเมืองลำปาง ได้อ่านหนังสือพิมพ์ จึงได้รู้ข่าวสรุปได้ว่า กรมป่าไม้กำลังราวีเพื่อยึดพื้นที่ที่เป็นป่าสงวนคืนจากผู้บุกรุกในเขตอำเภอ วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ผมก็เพิ่งรู้จากที่กรมป่าไม้แถลงว่า สาเหตุที่ทำให้หลายอำเภอในเขตจังหวัดนครราชสีมามีน้ำท่วมก็เพราะป่าสงวนที่วังน้ำเขียวถูกนักการเมือง นายทุนและผู้มีอิทธิพลได้พากันไปตัดไม้ทำลายป่าเพื่อสร้างบ้านและรีสอร์ทเต็มไปหมด ฉะนั้น มีทางเดียวที่จะทำให้น้ำไม่ท่วมเหมือนปีที่ผ่านมาก็คือจะต้องรื้อถอนอาคารทั้งหมด แล้วปลูกต้นไม้ลงไปแทน ที่ดินบริเวณใดที่ถูกถางถูกไถตัดไม้ทำลายป่าจนเป็นที่ว่าง ก็ให้ปลูกต้นไม้ลงไปใหม่ พูดง่าย ๆ ก็คือต้องพลิกคืนวังน้ำเขียวกลับมาให้เป็นป่าอย่างที่เคยเป็นให้ได้ อ่านข่าวเรื่องนี้แล้ว ทำให้ผมนึกถึงอีกหลายจังหวัดในภาคใต้ของไทย โดยเฉพาะที่เมืองคอนนครศรีธรรมราช ซึ่งมีเทือกเขาหลวงที่กินเนื้อที่กว้างขวางมาก เทือกเขาหลวงนี้แหละ สมัยที่มีป่าอุดมสมบูรณ์ เมืองคอนมีน้ำท่วมก็จริงแต่ท่วมน้อย เพราะป่าช่วยชะลอซับน้ำไว้แล้วค่อย ๆ ปล่อยลงมาอย่างบรรจงทว่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมา น้ำจากภูเขาไหลลงมาอย่างรุนแรงดุดัน ทั้งนี้ก็เพราะบนเทือกเขามีต้นไม้หรือป่าน้อยลงนั่นเอง หลังจากนั้นอีกวัน ผมอ่านข่าวหนังสือพิมพ์พบว่า นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าฯ เมืองคอนคนปัจจุบันกำลังส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้วยการแจกอากาศบริสุทธิ์บรรจุกระป๋องแก่ผู้ไปเยือนทุกคนในปีนี้ ที่ท่านผู้ว่าฯ ทำเช่นนี้ก็เพราะมีนักวิชาการยืนยันว่าอากาศบนเขาหลวงถือเป็นอากาศที่ดีและบริสุทธิ์แห่งหนึ่งของประเทศไทย ท่านผู้ว่าฯจึงถือโอกาสนำอากาศมาบรรจุกระป๋องแจกเสียเลย ท่านเชื่อว่า ทุกคนที่ไปเที่ยวเมืองคอนจะต้องยินดีและพอใจ เพราะจะได้เอาอากาศกระป๋องมาใช้หายใจได้สะดวกโดยไม่ต้องเอาจมูกปีนขึ้นไปรับอากาศบริสุทธิ์บนภูเขาให้เหนื่อย ครับ ก็ถือว่าเป็นความคิดที่ดีของท่านผู้ว่าฯ ต่อไปใครไปเที่ยวเมืองคอนจะได้มีของฝากอีกอย่างหนึ่ง คือ อากาศกระป๋อง แต่ถ้าให้ดียิ่งขึ้น ผมอยากเสนอให้ท่านผู้ว่าฯ ชักชวนระดมคนเมืองคอนขึ้นไปช่วยกันปลูกต้นไม้บนเขาหลวงให้มากที่สุดที่จะมากได้ ให้ถือเป็นกิจกรรมประจำปีเสียด้วยเลย เพราะต้นไม้ช่วยได้จริง ๆ ช่วยได้ทั้งทำให้มีอากาศดีขึ้นแล้วจะทำให้น้ำท่วมที่เมืองคอนลดลงด้วย จะบอกให้.ขอขอบคุณที่มา: http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=contentcategoryId=534contentId=152775
