โครงการประชุมวิชาการระดับชาติ “มสธ. วิจัย ประจำปี 2558”
หลักการและเหตุผล
ภารกิจที่สำคัญของมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษา คือ การพัฒนาคุณภาพการศึกษาบนพื้นฐานของการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้ได้มาซึ่งองค์ความรู้ใหม่และนวัตกรรมที่สามารถตอบสนองความต้องการของสังคมและประเทศชาติ สำหรับงานวิจัยที่จะสามารถนำตอบสนองต่อเป้าประสงค์ดังกล่าวได้นั้น จำเป็นต้องให้ความสำคัญตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ กล่าวคือต้นน้ำ: เป็นการ คัดเลือกและพัฒนาโจทย์วิจัยและข้อเสนอโครงการที่สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นของผู้ใช้ประโยชน์ กระบวนการกลางน้ำ: เป็นการติดตาม ตรวจสอบโครงการ เพื่อปรับแก้ไขและควบคุมให้มีทิศทางเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ส่วนปลายน้ำ: เป็นการผลักดันให้เกิดการเผยแพร่ผลงานจากการวิจัย และการนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ (Research Exploitation: RE) ที่เป็นรูปธรรม
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ตระหนักถึงความสำคัญด้านการวิจัย ทั้งการวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน การวิจัยสถาบัน และการวิจัยประยุกต์ โดยส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างงานวิจัยของคณาจารย์ และบุคลากรของมหาวิทยาลัย เพื่อให้ผลิตงานวิจัยที่มีคุณค่าต่อสังคม รวมทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการเผยแพร่ผลงานวิจัยที่มีประโยชน์สู่สาธารณะ เพื่อก่อให้เกิดการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้จริงทั้งในเชิงพื้นที่ เชิงนโยบาย เชิงสาธารณะ เชิงวิชาการ เชิงสร้างสรรค์ และเชิงพาณิชย์ โดยมุ่งเน้นให้นักวิจัยสามารถคิดต่อยอดได้ และเพิ่มมูลค่างานวิจัยได้ ขณะเดียวกันผลงานวิจัยต้องสามารถแข่งขันในเวทีวิชาการระดับชาติได้ด้วย
จากความสำคัญดังกล่าว มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช โดยสถาบันวิจัยและพัฒนา จึงได้จัดให้มีโครงการประชุมวิชาการระดับชาติ มสธ.วิจัย ประจำปี 2558 เรื่อง “การสร้างสรรค์งานวิจัยสู่การตีพิมพ์เผยแพร่และการใช้ประโยชน์ในระดับสากล” ขึ้น เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้จากงานวิจัย อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพงานวิจัยของมหาวิทยาลัยต่อไป
วัตถุประสงค์
1. เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์และข้อค้นพบจากการวิจัยของคณาจารย์ นักวิจัย นักศึกษาและบุคคลทั่วไป
2. เพื่อกระตุ้นให้คณาจารย์ นักวิจัย และนักวิชาการ ตระหนักถึงความสำคัญของการตีพิมพ์เผยแพร่ใช้ประโยชน์จากงานวิจัย
3. เพื่อส่งเสริมให้คณาจารย์และนักวิจัยเกิดความคิดริเริ่มในการสร้างสรรค์งานวิจัยที่สามารถต่อยอด หรือขยายผลสู่เชิงพาณิชย์ได้ต่อไป
กลุ่มเป้าหมาย
ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย คณาจารย์ นักวิจัยของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช บุคลากรทางการศึกษา และผู้สนใจทั่วไป จำนวนประมาณ 150 คน