ฝนที่ยังคงตกชุกต่อเนื่องทำให้น้ำในอ่างเก็บน้ำลำปะทาวที่ก่อนหน้านี้ประสบปัญหาภัยแล้งมีปริมาณเพิ่มขึ้นเกินระดับกักเก็บ ขณะที่หลายจังหวัดภาคเหนือเริ่มประสบปัญหาน้ำท่วม โดยที่ จ.เพชรบูรณ์ มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมขังแล้วกว่า 1,000 หลังคาเรือน
บ้านเรือนหลายหลังในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก และ เขตเทศบาลตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหล่มสัก ต้องนำกระสอบทรายมาทำเป็นแนวกั้นน้ำที่บริเวณประตูบ้าน หลังแม่น้ำป่าสักล้นตลิ่งไหลเข้าบ้านเรือนกว่า 1,000 หลังคาเรือน ถนนสายหลัก และ ถนนภายในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูงจนรถไม่สามารถสัญจรได้ โรงเรียนหลายแห่งต้องปิดการเรียนการสอน ขณะที่พื้นที่ทางการเกษตรจมอยู่ใต้น้ำกว่า 3,000 ไร่ ล่าสุดระดับน้ำเริ่มทรงตัว คาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 วัน
ส่วนที่อำเภอไชยปราการจังหวัดเชียงใหม่ฝนที่ตกหนักติดต่อหลายวัน ทำให้กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวแรงกัดเซาะคอสะพานจนขาด ไม่สามารถสัญจรได้หลายจุด ขณะเดียวกันมีดินโคลนถล่มปิดทับถนนเข้าสู่หมู่บ้านดอยเวียง ตำบลศรีดงเย็นรวม 12 จุด ทำให้ชาวบ้านกว่า 80 ครอบครัว ไม่สามารถเดินทางออกจากพื้นที่ได้
ที่จังหวัดพิจิตรน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ยังคงไหลเข้าท่วมในพื้นที่ตำบลทับคล้ออำเภอทับคล้อ ขยายวงกว้างมากขึ้น ล่าสุดชุมชนสวนโพธิ์ ถูกน้ำท่วม 14 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูงกว่า 80 เซนติเมตร ทำให้เทศบาลฯ ต้องนำวงบ่อและแผ่นพื้นสำเร็จรูปมาติดตั้งเพื่อให้ชาวบ้านสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน พร้อมเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 7 อำเภอของจังหวัดลำปาง ล่าสุดพื้นที่ส่วนใหญ่เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว หลังระดับน้ำเริ่มลดลงแต่ยังมีบางส่วนที่ถูกน้ำท่วมขัง ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังมีการเฝ้าระวังภัยตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเริ่มมีฝนตกซ้ำในหลายพื้นที่
ฝนที่ตกต่อเนื่องส่งผลให้น้ำในอ่างเก็บน้ำลำปะทาวล่างตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เกินปริมาณการกักเก็บ และล้นช่องระบายน้ำล้นประมาณ 30 เซนติเมตร ทำให้ นายอุกริช พึ่งโสภา รองผู้ว่าราชจังหวัดชัยภูมิ กำชับทุกหน่วยงานให้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดเพราะหากน้ำล้นช่องระบายน้ำที่ระดับ 75 เซนติเมตรเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิจะถูกน้ำท่วมทันที
ขอขอบคุณ http://news.thaipbs.or.th