ระบบน้ำประปาในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช กำลังขาดแคลนน้ำดิบที่ใช้ผลิตน้ำประปาไม่เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศให้ 8 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ง โดยเชื่อว่าหน้าแล้งปีนี้สถานการณ์จะรุนแรงมากที่สุดในรอบ 10 ปี
ปริมาณน้ำในหอสูบน้ำของประปาเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เริ่มแห้ง เพราะน้ำดิบในแหล่งน้ำคลองท่าดี ซึ่งมีต้นน้ำจากเทือกเขาหลวง ในอำเภอลานสกา มีปริมาณลดน้อยลง จากที่ต้องเข้าสู่ระบบการผลิตน้ำประปาไม่น้อยกว่า 50,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ขณะนี้เหลือเพียง 38,000 - 40,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ต้องจัดหาแหล่งน้ำเข้าสู่ระบบการผลิตอย่างเร่งด่วนทั้งการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลแบบฉุกเฉิน หรือการทำฝาย รวมถึงเบิกร่องน้ำคลองท่าดีให้กว้างขึ้น เพื่อนำน้ำดิบเข้าสู่ระบบการผลิตให้เพียงพอก่อนเข้าสู่ภาวะวิกฤติ
นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประกาศให้อำเภอปากพนัง หัวไทร เฉลิมพระเกียรติ ชะอวด เชียรใหญ่ พระพรหม และอำเภอเมือง เป็นเขตประสบภัยพิบัติแล้ง โดยคาดว่าปีนี้ปัญหาสถานการณ์ภัยแล้งจะรุนแรงมากที่สุดในรอบ 10 ปี เพราะปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักในการผลิตน้ำประปาของจังหวัดนครศรีธรรมราช เหลือน้ำต้นทุน เพียงร้อยละ 38 ของปริมาณน้ำที่กักเก็บ หรือสามารถใช้ได้แค่เพียง 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งแม้ว่าก่อนหน้านี้จะได้ประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทำฝนหลวงไปแล้วกว่า 80 เที่ยว แต่เพราะความชื้นในชั้นบรรยากาศมีน้อย ทำให้ปฏิบัติการฝนหลวงไม่ประสบความสำเร็จ
ขอขอบคุณ http://news.thaipbs.or.th