น้ำชีและน้ำพอง ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ปลูกข้าวในอำเภอเมืองขอนแก่น เสียหายแล้วกว่า 10,000 ไร่ จังหวัดเร่งประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำเพื่อหาแนวทางรองรับมวลน้ำ หลังเขื่อนอุบลรัตน์สามารถรองรับน้ำได้อีกเพียง 170.06 ล้านลูกบาศก์เมตร
สถานการณ์น้ำชี และลำน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ปริมาณน้ำจากลำน้ำทั้ง 2 สาย เริ่มไหลทะลักเข้าท่วมนาข้าว โดยเฉพาะบริเวณบ้านบึงเนียม และบ้านบึงสว่าง ตำบลพระลับ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากทั้งสองหมู่บ้านเป็นแหล่งรับน้ำจากลำน้ำพองที่ปล่อยมาจากเขื่อนอุบลรัตน์ และลำน้ำชีที่ไหลมาประจบกัน ประกอบกับปริมาณน้ำในลำน้ำมีปริมาณมาก ทำให้ทะลักเข้าท่วมที่นา และพื้นที่การเกษตร เสียหายไปกว่า 10,000 ไร่
ด้านจังหวัดขอนแก่น ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ เพื่อรับทราบพื้นที่เสี่ยงภัย หลังพบว่าเขื่อนอุบลรัตน์ สามารถรองรับน้ำได้อีกเพียง 170.06 ล้านลูกบาศก์เมตร เท่านั้น
นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้ประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ ในช่วงวันที่ 22-24 กันยายน นี้ หลังมีประกาศเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่กำลังถูกน้ำท่วม 4 อำเภอ ประกอบไปด้วย อำเภอชนบท,แวงใหญ่,แวงน้อย,มัญจาคีรี และอำเภอเมืองบางแห่ง ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากมวลน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิ และ จังหวัดเลย ทำให้พื้นที่ดังกล่าวประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก คาดว่าอีกไม่นานมวลน้ำที่ไหลมาจากอำเภอดังกล่าว จะเข้าท่วมอำเภอเมืองในไม่ช้านี้
ด้านเขื่อนอุบลรัตน์ได้ แจ้งถึงสภาพน้ำในเขื่อน ณ ปัจจุบัน ( 23 กันยายน 2554) มีปริมาณน้ำในอ่าง 2,261.24 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถรับน้ำได้อีกเพียง 170.06 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเขื่อนอุบลรัตน์มีระดับกักเก็บน้ำสูงสุดที่ 182 เมตร ระดับน้ำทะเลสูงสุด (รทก.) ขณะนี้น้ำมีประมาณสูงสุดระดับเหนือเขื่อนที่ 181.49 เมตร(รทก) คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ 91.95 เปอร์เซ็นต์ คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างในครึ่งหลังของเดือนกันยายน –เดือนตุลาคม 2554 ประมาณ 1,200-1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้น้ำล้นเขื่อนอุบลรัตน์ และหากต้องระบายน้ำออกจากเขื่อนก็ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชน และพื้นที่การเกษตรด้วย
ดังนั้นจึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางแก้ไขและวิธีการจัดการบริหารน้ำ เพื่อให้สามารถรองรับกับมวลน้ำขนาดใหญ่ที่กำลังจะไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิและจังหวัดเลยด้วย และให้เฝ้าตรวจสอบสถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ตลอดเวลาและประกอบกับการหาวิธีบริหารจัดการน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์เพื่อไม่ให้น้ำล้นเขื่อน และส่งผลกระทบกับประชาชนและการเกษตรของประชาชนด้วย
ขอขอบคุณ http://www.krobkruakao.com