เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน มอบหมายให้นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรของ ฝ่ายเครื่องจักรกลเรือขุดและเรือกำจัดวัชพืชที่ 5 ส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 5 จ.พระนครศรีอยุธยาเข้าเปิดทางน้ำโดยใช้เครื่องจักรกลประเภท เรือขุด แบบ แบคโฮลงโป๊ะ จำนวน 4 ชุด ขุดลอกคลองบริเวณคลองส่งน้ำสายใหญ่อนุศาสนนันทน์ (ชัยนาท-ป่าสัก) ซึ่งมีตะกอนดินตกจมทำให้คลองตื้นเขิน อีกทั้งมีวัชพืชผิวน้ำและต้นไม้ขึ้นปกคลุม ทำให้การบริหารจัดการน้ำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพและทำให้ชาวบ้านที่ทำเกษตรกรและที่สัญจรทางน้ำเดือดร้อน โดยขุดลอกตั้งแต่ กม.24+000 ถึง กม.32.990 (8.990 กม.) ต.วัดโคก อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามโนรมย์สำนักงานชลประทานที่ 10 ซึ่งมีปริมาณดินจำนวน 280,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำให้เพื่อการเกษตรในฤดูฝน-ฤดูแล้ง และเพื่ออุปโภค-บริโภคและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน โดยเร็วที่สุด ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้วประมาณ 36 %
นายประพิศ เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ ไว้ทั้งสิ้น 5,935 หน่วย ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ ประกอบไปด้วยเครื่องสูบน้ำ 2,140 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 503 คัน เครื่องจักรสนับสนุนอื่น 3,292 หน่วย เพื่อให้การช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัยแล้งปี 2563/64 ได้อย่างทันท่วงที และลดความเสียหายจากภาวะขาดแคลนน้ำ
ด้านนายสุพิศกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 6 โดย ฝ่ายเครื่องจักรกลเรือขุดและเรือกำจัดวัชพืชที่ 6 นำเรือกำจัดวัชพืช จำนวน 1 ลำพร้อมเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ คลอง 5 ซ้าย ตำบลศาลาครุ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เขตพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ สำนักงานชลประทานที่ 11 มีปริมาณวัชพืช 4,590 ตัน และดำเนินการแล้ว 20% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2564 นี้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาความเดือนร้อนเรื่องน้ำให้กับประชาชนและเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ
ที่มาและภาพประกอบ : https://www.matichon.co.th/region/news_2585675