จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประกาศเขตภัยพิบัติ 3 อำเภอ พร้อมเตรียมรับน้ำที่ไหลบ่ามาจากจังหวัดอ่างทอง ด้านสำนักศิลปากรที่ 3 สั่งเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมวัดไชยวัฒนาราม
ระดับในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านหน้าวัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เหลืออีกประมาณ 50 ซม. จะล้นแนวตลิ่งท่วมสันเขื่อนด้านหน้าวัด ทำให้ นายสุพจน์ พรหมมาโนช ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา กำชับให้เจ้าหน้าที่จากอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ดูแลเช็คระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาทุกชั่วโมงเพื่อเตรียมแผนเพิ่มเติมหากน้ำถึงจุดวิกฤติ ส่วนน้ำในคลองบางหลวง ซึ่งรับน้ำมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ขณะนี้ชาวบ้านริมคลองบางหลวง ทั้ง ตำบลวัดตะกู ตำบลบางหัก ตำบลบางหลวง และ ตำบลบางหลวงโดด อำเภอบางบาล ต้องขนย้ายสิ่งของหนีน้ำอีกครั้ง หลังจากระดับน้ำในคลองบางหลวงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ น้ำในคลองบางหลวงเพิ่มอีก 15 ซม. ทำให้สวนกล้วยหอมตลอดแนวสองฝั่งคลองบางหลวง ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก
สำหรับพื้นที่ อำเภอเสนา และ อำเภอผักไห่ ซึ่งมีแม่น้ำน้อยไหลผ่าน พบว่าชาวบ้านบางส่วนเริ่มขนย้ายสิ่งของมาไว้ริมถนนชั่วคราว เนื่องจากน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลย้อนเข้าแม่น้ำน้อย จนทำให้น้ำท่วมสูงขึ้นอีก ซึ่งชาวนาในพื้นที่ผักไห่ กังวลว่า ข้าวที่ใกล้จะเก็บเกี่ยวอีก 2 เดือน จะถูกน้ำท่วมเสียหาย ประมาณ 20,000 ไร่
ล่าสุด นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงนามในคำสั่งประกาศเขตภัยพิบัติฉุกเฉิน ใน 3 อำเภอ ประกอบด้วย บางปะอิน บางไทร และ พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ถูกน้ำท่วม 34 ตำบล 173 หมู่บ้าน และวันจันทร์นี้จะประกาศเพิ่มอีก 5 อำเภอ คือ บางบาล เสนา ผักไห่ บางปะหัน และนครหลวง ซึ่งทั้งหมดเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมจากการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา
ขอขอบคุณ http://www.krobkruakao.com