จากสถานการณ์ภัยแล้งจนถึงปัญหาน้ำเค็ม ซึ่งกรมชลประทานได้สั่งปิดประตูระบายน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะมีปริมาณน้ำทะเลหนุนสูง และเพื่อเป็นการป้องกันน้ำทะเลทะลักเข้ามาทำให้น้ำกร่อย ส่งผลให้ชาวนาตำบลบางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี ต้องเฝ้าระวังปัญหาภัยแล้ง เพราะปีที่แล้ว กระทบกับคุณภาพของข้าว ที่ไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งนี้ ปัญหาน้ำเค็มยังทำให้ต้องหยุดทำนาไปนานกว่า 4 เดือน
ด้าน นายอุเทน ชุมทอง อายุ 35 ปี ชาวนาตำบลบางคูวัด กล่าวว่า ปัจจุบันราคาข้าวยังคงถูกอยู่ ประกอบกับขณะนี้น้ำเค็มเริ่มหนุน เนื่องจากชลประทานปิดประตูระบายน้ำทำให้ระดับน้ำในคลองซอยน้อยลง ที่ผ่านมาช่วงภัยแล้งต้องเว้นระยะการทำนาไปประมาณ 4 เดือน เนื่องจากไม่มีน้ำ พอจะมีน้ำมากก็จะประสบปัญหากับน้ำเค็มหนุน ข้าวที่หว่านเมล็ดไม่งอก การแก้ปัญหา คือ จะต้องปรับสภาพดินใหม่จนกว่าคุณภาพของดินจะใช้ปลูกข้าวได้ หาสภาพดินไม่สมบูรณ์เมื่อวานข้าวแล้วข้าวที่ขึ้นมาจะไม่ได้คุณภาพ
ส่วน นายประชุม ดอกแย้ม อายุ 54 ปี ชาวนาตำบลบางคูวัด กล่าวว่า ขณะนี้ราคาข้าวยังตกต่ำอยู่ ขายได้ประมาณ 6,000 กว่าบาท หากมีข้าวปนราคาก็จะต่ำลงไปอีก ซึ่งขณะนี้เกิดปัญหาน้ำเค็มเริ่มหนุน ชาวนาจึงต้องเฝ้าระวัง ในพื้นที่ของตนเอง โดยทางชลประทานเองก็มีการปิดประตูระบายน้ำในช่วงเวลาที่น้ำเค็มหนุนขึ้นมา หากแปลงนาถูกน้ำเค็ม ข้าวก็จะลีบ ไม่มีน้ำหนัก เม็ดข้าวจะไม่เต็ม ราคาก็จะตกไปอีก ทั้งนี้ ชาวนายังต้องแบกภาระต้นทุนที่สูงอยู่ ทั้งค่าน้ำมัน ค่าปุ๋ย ค่ายา หากชาวนาสามารถขายข้าวได้ในราคา 9,000 ถึง 10,000 บาท ก็จะอยู่กันได้
เนื้อหาและภาพประกอบ http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=765062