เมื่อวันที่ 15 พ.ค. นายดนัย เจียมวิเศษสุข รอง ผวจ.นครศรีธรรมราช ในฐานะประธานคณะทำงาน ติดตามป้องกัน แก้ไขปัญหาและการให้ความช่วยเหลือ ประชาชนผู้ประสบภาวะขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค. นำคณะทำงานฯ ประกอบด้วย หน. สนง.ปภ.จังหวัด ผู้แทนมณฑลทหารบกที่ 41 ผู้แทน สำนักชลประทานที่ 15 ผู้แทนประชาสัมพันธ์จังหวัด และผู้แทนนายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ สำรวจแหล่งน้ำดิบสำรองที่ใช้ในการผลิตน้ำประปาของสำนักการประปา เทศบาลนครนครศรีธรรมราช เนื่องจากขณะนี้ได้ขาดแคลนแหล่งน้ำดิบอยู่ในภาวะ วิกฤติอย่างหนัก
เทศบาลตกลงเจรจาซื้อขายน้ำกับเจ้าของบ่อน้ำ 2 แห่ง จุดแรกเป็นบ่อน้ำสันยูง ต.ท่าดี อ.ลานสกา ของนายกิตติศักดิ์ เตติรานนท์ ซึ่งทางสำนักชลประทาน ที่ 15 นครศรีธรรมราช กำลังเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว และเทศบาลนครฯ กำลัง เดินท่อส่งน้ำระยะทาง 200 เมตร เพื่อเชื่อมเข้ากับ ระบบท่อส่งน้ำดิบของเทศบาลนครฯ ไปยังโรงกรองน้ำ ทวดทอง คาดว่าจะสามารถสูบน้ำได้ 500 คิว (ลูกบาศก์เมตร) ต่อชั่วโมง ภายในวันที่ 15 พ.ค.นี้
จุดที่สองเป็นบ่อน้ำของอัยการวินัย อยู่ห่างจาก จุดแรกไม่มากนัก สามารถติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเดิน ท่อไปเชื่อมต่อกับบ่อที่หนึ่งได้ หรือสูบใส่รถบรรทุกไป แจกจ่ายให้กับประชาชนได้โดยตรง เนื่องจากคุณภาพน้ำใสมาก นอกจากนี้ คณะทำงานฯ ยังได้ไปสำรวจ แหล่งน้ำดิบสาธารณะของเทศบาลเมืองปากพูน อ.เมือง นครศรีธรรมราช ซึ่งกองทัพบกได้ขุดไว้เนื้อที่ 63 ไร่ มีปริมาณน้ำประมาณ 4 แสนคิว (ลูกบาศก์เมตร) จากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประชุมร่วมกับคณะทำงานฯ และนายกเทศมนตรีเมืองปากพูน ที่เทศบาลเมืองปากพูน เพื่อกำหนดมาตรการในการ นำน้ำดิบตามแหล่งต่างๆที่สำรวจไว้มาใช้ให้ได้เป็นรูปธรรมทันที เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนขาดแคลนน้ำประปา อย่างไรก็ตาม ได้ขอให้มหาวิทยาลัย วลัยลักษณ์ นำตัวอย่างน้ำไปตรวจวิเคราะห์คุณภาพ หาสารเคมีเจือปนก่อน และให้ขอรับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 จ.ตรัง ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย
จ.สงขลา ที่ตลาดสดทรัพย์สินพลาซ่าสงขลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาพืชผักหลายชนิดพากันปรับตัว ขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นรายวัน ทั้งต้นหอม ผักชี ผักกาดหอม ผักขึ้นฉ่าย ผักชีฝรั่ง ส่วนผักอื่นๆก็เตรียม ทยอยกันปรับราคาสูงขึ้นเช่นเดียวกัน สาเหตุหลักที่ทำให้ มีการปรับราคาผักแพงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ ร้อนจัดขณะนี้ทำให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย
นางประภา จินดา อายุ 39 ปี แม่ค้าในตลาดทรัพย์สิน พลาซ่า เขตเทศบาลนครสงขลา เผยว่า จากปัญหาภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วงมานาน ขณะนี้ทำให้ผักหลายชนิดมีการ ปรับราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะต้นหอม จาก กก.ละ 120 บาท ขึ้นเป็น 200 บาท ผักชี จาก กก.ละ 200 บาท ขึ้นเป็น 220 บาท ผักกาดหอม จาก กก.ละ 100 บาท ขึ้นเป็น 130 บาท ผักขึ้นฉ่าย จาก กก.ละ 120 บาท ขึ้นเป็น 130 บาท ผักชีฝรั่ง จาก กก.ละ 80 บาท ขึ้นเป็น 120 บาท และมีการปรับราคาผัก สูงขึ้นต่อเนื่องเป็นรายวันอีกหลายชนิด และคาดว่า ราคาต้นหอม ผักชี อาจสูงถึง กก.ละ 250 บาท ในอีก 2-3 วันข้างหน้า.
ที่มาของข่าวและภาพประกอบ https://www.thairath.co.th/content/620909
