วันนี้ (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนดอยอินทนนท์ จุดสูงสุดแดนสยามเมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ธ.ค.) มีผู้คนเดินทางไปร่วมกิจกรรม “เปิดฟ้า...ตามหาดาว” ที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) จัดขึ้นกันเป็นจำนวนมาก เพื่อรอชมฝนดาวตกเจมินิดส์ หรือฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ ส่งท้ายปี 2558 ท่ามกลางลมหนาวที่พัดโชยตลอดเวลา
ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ในช่วง 14-17 ธันวาคมของทุกๆ ปีจะเกิดปรากฏการณ์ “ฝนดาวตกเจมินิดส์” หรือ “ฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่”
โดยปีนี้จะสังเกตเห็นฝนดาวตกเจมินิดส์ได้ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำหลังดวงจันทร์ลับขอบฟ้า หรือตั้งแต่เวลาประมาณ 20.30 น. ของคืนวันที่ 14 ธันวาคม จนถึงรุ่งเช้าของวันที่ 15 ธันวาคม และคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการตกสูงสุดถึง 120 ดวงต่อชั่วโมง มีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณกลุ่มดาวคนคู่ ระหว่างดาวพอลลักซ์ กับดาวคาสเตอร์ สามารถมองเห็นได้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และเห็นได้ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย
วิธีการชมฝนดาวตกให้สบายที่สุดนั้นอาจใช้วิธีนอนรอชมหรือนั่งบนเก้าอี้ที่สามารถเอนนอนได้เพื่อไม่ให้เกิดอาการเมื่อยคอเนื่องจากใช้ระยะเวลายาวนาน และในช่วงเดือนธันวาคมเป็นช่วงที่มีอากาศหนาว ควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อม และเตรียมยาทากันยุงไว้ด้วย
ดร.ศรัณย์กล่าวเพิ่มเติมว่า และนอกจากฝนดาวตกเจมินิดส์แล้วยังมีฝนดาวตกชุดอื่นให้ชมกันอีก เช่น ฝนดาวตกพัพพิดส์-เวลิดส์ ในคืนวันที่ 9 ธันวาคม อัตราการตก 15 ดวงต่อชั่วโมง และฝนดาวตกเออร์ซิดส์ ในคืนวันที่ 22 ธันวาคม 2558 อัตราการตก 10 ดวงต่อชั่วโมง ฯลฯ ถือเป็นเดือนส่งท้ายปีที่เหมาะแก่การสังเกตการณ์ฝนดาวตกเป็นอย่างยิ่ง
ฝนดาวตกเจมินิดส์เกิดจากการที่โลกเคลื่อนที่เข้าตัดกับกระแสธารของเศษหินและเศษฝุ่นขนาดน้อยใหญ่ที่ดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอนทิ้งไว้ในขณะเคลื่อนผ่านเข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน เมื่อโลกโคจรผ่านเส้นทางดังกล่าว สายธารของเศษหินและฝุ่นของดาวเคราะห์น้อยจะถูกแรงดึงดูดของโลกดึงเข้ามาเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศโลกเกิดเป็นลำแสงวาบ หรือในบางครั้งเกิดเป็นลูกไฟที่มีสีสวยงาม (fireball)
ฝนดาวตกแตกต่างจากดาวตกทั่วไป คือเป็นดาวตกที่มีทิศทางเหมือนมาจากจุดจุดหนึ่งบนท้องฟ้า เรียกว่า จุดศูนย์กลางการกระจาย (Radiant) เมื่อจุดศูนย์กลางการกระจายตรงหรือใกล้เคียงกับกลุ่มดาวอะไร ก็จะเรียกชื่อฝนดาวตกตามกลุ่มดาวนั้นๆ หรือดาวที่อยู่ใกล้กลุ่มดาวนั้น เช่น ฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ ฝนดาวตกกลุ่มดาวสิงโต เป็นต้น
Credit : http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000137382