เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องกันมาหลายวันในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช ส่งผลให้น้ำท่วมขังในพื้นที่หลายอำเภอ ขณะที่พื้นที่ติดชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ตั้งแต่ อ.ขนอม อ.สิชล อ.ท่าศาลา อ.เมือง อ.ปากพนัง และ อ.หัวไทร ต่างได้รับผลกระทบจากคลื่นลมที่พัดเข้าหาฝั่งอย่างรุนแรง จนราษฎรที่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเล ต้องอพยพหลบหนีคลื่นลมแรงกันชุลมุนในช่วงเช้า ขณะเดียวกันได้เกิดน้ำทะเลหนุนเข้าท่วมถนนหลายสาย จนรถไม่สามารถผ่านสัญจรไปมาได้ และท่วมบ้านเรือนราษฎรหลายหมู่บ้านใน ต.ท่าซัก ปากนคร และต.บางจาก อ.เมือง โดยเฉพาะบริเวณสะพานตัวที ต.ปากนคร ระดับน้ำทะเลหนุนท่วมสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร จนนายพีระศักดิ หินเมืองเก่า ผวจ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดและ ทหารจากกองทัพภาคที่ 4 ระดมกำลังลงพื้นที่ไปช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วมจากน้ำทะเลหนุนเป็นการด่วนแล้ว
ขณะที่หลายหมู่บ้านแหลมตะลุมพุก ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง น้ำทะเล ได้หนุนสูงเข้าท่วมถนนหลายสายในหมู่บ้านจนรถเกือบทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ โดยคลื่นซัดถล่มแนวชายฝั่งอย่างต่อเนื่องรุนแรง โดยน้ำทะเลได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรริมทะเลอีกหลายสิบครัวเรือน จนชาวบ้านต้องอพยพหนีภัยชุลมุน โดยคลื่นลมได้พัดถล่มเพิงพักริมชายหาดพังเสียหายจำนวนมาก ส่วนถนนในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองปากพนัง ถูกน้ำท่วมขังจนการสัญจรไปมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังลงพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วน ส่วนที่ชุมชนมุสลิมบ้านท่าม่วง หมู่ 1 ต ท้องเนียน อ ขนอม ได้เกิดน้ำทะเลหนุนสูงกว่า 30-40 เซนติเมตร ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนประมาณ 80 ครัวเรือน ในขณะที่หลายหมู่บ้านชายทะเลในพื้นที่ อ.สิชลก็ประสบปัญหาย้ำท่วมอันเกิดจากน้ำทะเลหนุนเช่นเดียวกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายฝึกรบพิเศษ อ.สิชล นำกำลังออกช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้พื้นที่ อ.ท่าศาลา หัวไทร ก็ประสบปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงเช่นเดียวกัน.
Credit : http://www.dailynews.co.th