เมื่อเวลา09.00 น.วันที่ 7 ธ.ค. นายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูร พยากรณ์อากาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้ภาคเหนืออากาศหนาวเย็นทั่วไปกับมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด10-13 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อุณหภูมิต่ำสุดช่วงเช้าบริเวณยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ วัดได้ 9.0 องศาเซลเซียส ช่วงนี้จนถึงวันที่ 11 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้อากาศเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยบริเวณภาคเหนือตอนบนจะมีอากาศหนาวบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังการใช้ยวดยานพาหนะบริเวณพื้นที่หมอกหนาในช่วงตลอดระยะปลายสุดสัปดาห์นี้
ขณะที่สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหวกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.7 ริกเตอร์ ที่ละติจุด 19.76 ลองจิจูด 99.74 มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย เบื้องต้นเป็นเพียงแผ่นดินไหวที่รู้สึกตัวได้ ไม่ได้รับรายงานเรื่องของความเสียหายในพื้นที่แต่อย่างใด ด้านนายชูศักดิ์ เทพสาร เกษตรอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าจากการประเมินสถานการณ์ทางด้านภูมิอากาศ คาดว่าในปีนี้น่าจะมีอากาศหนาวกว่าทุกปีโดยอุณหภูมิจะลดต่ำลงมาก ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคพืชที่มาพร้อมกับอากาศหนาวจนอาจจะส่งผลให้ผลิตผลทางการเกษตรเสียหายได้เกษตรกรต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์การระบาดของเพลี้ยไฟและไรแดงที่เป็นศัตรูกับพืชผักในช่วงฤดูหนาว รวมไปถึงระมัดระวังโรคพืชที่สำคัญได้แก่ โรคราน้ำค้าง ที่มักจะพบในพืชผักและไม้ดอก
ทั้งนี้สำหรับวิธีการป้องกันเกษตรกรควรทำบันทึกการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศหากมีอากาศเย็นติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ให้พ่นสารกำจัดเชื้อราจำพวกไดแมทโทมหรือเมทาแลคซิล ป้องกันโรคราน้ำค้างไว้ก่อนหากตรวจพบว่าใบหงิกงอผิดปกติให้นำตัวอย่างมาปรึกษาสำนักงานเกษตรอำเภอฝาง เนื่องจากขณะนี้มีฝ่ายอารักขาพืชที่ทำการวินิจฉัยโรคพืชในเบื้องต้นรวมไปถึงส่งต่อไปในระดับจังหวัดเพื่อหาทางช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวและรอชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อุทยานก็ได้เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติอื่นๆ ก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน บางแห่งที่มีที่พัก ก็ถูกจองเกือบเต็มหมดแล้ว คาดว่าภายใน 1 อาทิตย์ข้างหน้า ห้องพักต่างๆ ตามรีสอร์ทและแหล่งท่องเที่ยวคงจะถูกจองเต็มยาวจนถึงต้นปีหน้าอย่างแน่นอน.
Credit : http://www.dailynews.co.th/