เมื่อเวลา08.30น.วันที่16ก.พ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านพระยืน หมู่ 1ต.พระยืน อ.พระยืน จ.ขอนแก่น กำลังประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนักชาวบ้านขาดน้ำอุปโภค-บริโภคและน้ำเพื่อการเกษตรทั้งหมู่บ้านขณะเดียวกันหนองน้ำพระยืนหรือหนองน้ำน้อยซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณะขนาดใหญ่แห่งเดียวในตำบลพระยืนได้ประสบปัญหาน้ำแห้งขอดจนพื้นดินก้นสระน้ำแตกระแหง ต้องไปสูบน้ำใต้ดินที่ห่างจากหมู่บ้านไปด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้านพระยืนประมาณ2กม.เพื่อสูบน้ำไหลลงในหนองน้ำพระยืนเพื่อมีน้ำสำหรับสูบขึ้นมาผลิตน้ำประปาให้ชาวบ้านได้มีน้ำกินน้ำใช้เป็นการชั่วคราวส่งผลให้ราษฎรในพื้นที่ต้องซื้อน้ำดื่มน้ำใช้จากรถเร่ขายน้ำมานานกว่า2เดือนแล้ว
ทำให้นายวิเชียร ศรีชาลีนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพระยืนพร้อมคณะผู้บริหารเทศบาลตำบลพระยืนและนายสุรชัย โคตะนันท์ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1บ้านพระยืน ได้ให้รถบรรทุกน้ำขนาด7,000ลิตรนำน้ำกินน้ำใช้ไปแจกจ่ายให้ราษฎรที่ประสบภัยแล้งรุนแรงใน4หมู่บ้านต.พระยืน โดยมีราษฎรที่ประสบภัยแล้งประมาณ3,000กว่าคน900ครัวเรือน ต้องนำรถเข็นน้ำใส่แกลลอนพลาสติกมาขอน้ำจากรถบรรทุกน้ำตรงกลางหมู่บ้าน
นางเตียงทองจงดา อายุ 65ปีกล่าวว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านหมู่1มีชาวบ้านประมาณ1,000คน286ครัวเรือน ได้ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมาแล้วและแล้งกว่าทุกปีที่ผ่านมาซึ่งเดิมทีชาวบ้านจะได้ใช้น้ำจากหนองน้ำพระยืนแห่งนี้ ในการสูบน้ำขึ้นมาเพื่อผลิตเป็นน้ำประปาหมู่บ้านแจกจ่ายให้กับชุมชนใน4หมู่บ้านต.พระยืน แต่ปัจจุบันสระน้ำดังกล่าวได้เหลือน้ำน้อยมากบางแห่งแห้งขอดจนเห็นพื้นดินก้นสระ ชาวบ้านจึงต้องเสียเงินซื้อน้ำกินน้ำใช้ในราคาที่แพงกว่าค่าน้ำประปาขณะที่ทางคณะกรรมการหมู่บ้านได้พยายามขุดเจาะน้ำบาดาล เพื่อหาน้ำมาใส่หนองน้ำพระยืน เพื่อทำน้ำประปาก็มีน้อยมาก ส่งผลให้ 4หมู่บ้านในตำบลพระยืนต้องเดือดร้อนขาดน้ำไปตามๆ กันจึงอยากวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำให้กับชาวบ้านใน4หมู่บ้านต.พระยืน อย่างเร่งด่วนด้วย
ด้านนายวิเชียร ศรีชาลีนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพระยืนกล่าวว่า ตนได้เร่งนำรถน้ำของเทศบาลตำบลพระยืนลงพื้นที่นำน้ำสะอาดไปแจกจ่ายให้กับราษฎรทุกหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งรุนแรง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยไม่มีน้ำกินน้ำใช้ และน้ำเพื่อการเกษตรในเบื้องต้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำของประชาชนเนื่องจากมีรถน้ำอยู่เพียง1คันอย่างไรก็ตามตนจะได้ทำหนังสือด่วนส่งไปยังจังหวัดเพื่อขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป.
Credit : http://www.dailynews.co.th
