สภาพอากาศที่หนาวเย็นลง ส่งผลกระทบต่อชาวนาที่ทำนาปรังในจังหวัดศรีสะเกษ หลังจากต้นข้าวเกิดโรคระบาด ขณะที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหุบเขาและที่ราบสูงใน จ.เลย ต้องเผชิญกับภัยหนาว บางพื้นที่เกิดปรากฎการณ์น้ำค้างแข็ง (แม่คะนิ้ง)
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามหุบเขาและที่ราบสูงใน อ.ด่านซ้าย และอ.นาแห้ว จ.เลย ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นหลังอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง อุณภูมิอยู่ที่ 10 องศาเซลเซียส บางแห่งเกิดปรากฎการณ์น้ำค้างแข็ง (แม่คะนิ้ง) โดยเฉพาะที่หมู่บ้านหินสอ ต.ปลาบ่า อ.ภูเรือ ที่เกิดแม่คะนิ้งติดต่อกัน 3 วัน
เช่นเดียวกับอุณหภูมิที่จังหวัดหนองคายลดลงอยู่ที่ 19 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดน้ำค้างแข็งบนยอดหญ้า ตามสนามหญ้า และทุ่งนาจำนวนมาก ซึ่งอุตุนิยมวิทยาจังหวัดหนองคายระบุว่า อุณภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส ส่วนชาวบ้านที่จังหวัดกาฬสินธุ์ต้องก่อกองไฟผิงเพื่อคลายหนาวในช่วงเช้าและช่วงเย็น หลังอุณหภูมิลดลงอยู่ที่ 10 องศาเซลเซียส โดยบริเวณยอดภูอุณหภูมิอยู่ที่ 5 - 7 องศาเซลเซียส ทำให้บางส่วนขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว
ขณะที่อากาศที่เย็นลงใน จ.ศรีสะเกษ ส่งผลต่อชาวนาที่ปลูกข้าวนาปรังใน ต.โพนข่า อ.เมือง เพราะได้รับผลกระทบจากโรคระบาดเพลี้ยกระโดดสีขาว ทำให้ข้าวไม่เจริญเติบโตและได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้มีข้าวได้รับความเสียหายจากเพลี้ยกระโดดสีขาวใน อ.เมืองแล้วกว่า 1,500 ไร่
ส่วนที่ จ.เชียงราย อากาศยังหนาวเย็นต่อเนื่อง ทำให้นายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย แจ้งเตือนให้ผู้บริหารโรงเรียนอนุบาล ศูนย์เด็กเล็กทุกแห่งดูแลทำความสะอาดห้องเรียน ของเด็กเล่น และเครื่องใช้ต่างๆเป็นพิเศษในระยะนี้ เพื่อป้องกันโรคมือ เท้า ปาก ในเด็กระบาด เพราะอากาศหนาวจะทำให้เชื้อไวรัสเจริญเติบโตได้ดี และมักระบาดในเด็กเล็กช่วยอายุแรกเกิดถึง 4 ปี
Credit : http://news.thaipbs.or.th