บุรีรัมย์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลายจังหวัดทางภาคเหนือประสบปัญหาน้ำท่วม แต่ที่จังหวัดบุรีรัมย์กลับประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางที่มีอยู่ทั้งจังหวัดจำนวน 22 แห่ง มีปริมาณน้ำกักเก็บเพียง 57 เปอร์เซ็นต์จากปริมาณความจุอ่างทั้งหมด 299 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก แหล่งน้ำดิบผลิตประปาบริการประชาชนในพื้นที่ 2 อำเภอ มี อ.เมือง และ อ.ห้วยราช กว่า 20,000 ครัวเรือน ระดับน้ำยังอยู่ในขั้นวิกฤต ปัจจุบันมีน้ำกักเก็บเพียง 6 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเฉลี่ย 23.03 เปอร์เซ็นต์ ของความจุอ่างทั้งหมดกว่า 26 ล้านลูกบาศก์เมตร หากเปรียบเทียบในช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมาพบว่า ปีนี้มีปริมาณน้ำกักเก็บน้อยกว่า จากปีที่ผ่านมาในช่วงนี้จะมีน้ำกักเก็บอยู่กว่า 7.5 ล้านลูกบาศก์เมตร แม้ว่าจะทำฝนหลวงอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยทำให้ฝนไม่ตกในพื้นที่รับน้ำ ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างยังไม่เพิ่มขึ้น
ด้านนายยงศักดิ์ ประภาพันธ์ศักดิ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ถ้าปริมาณน้ำในอ่างยังไม่เพิ่มขึ้น ยังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงอย่างต่อเนื่องหากสิ้นสุดฤดูฝนแล้วปริมาณน้ำในอ่าง ยังไม่เพิ่มขึ้น ทางชลประทานก็ได้เตรียมแผนรองรับ โดยการใช้เครื่องสูบน้ำไฟฟ้าสูบผันน้ำจากลำน้ำมาศ อ.ลำปลายมาศ ระยะทางกว่า 16 กิโลเมตร มาสำรองในอ่างห้วยจระเข้มาก เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตขาดแคลนน้ำ แต่ละเดือนทางการประปาจะนำน้ำดิบในอ่างไปผลิตประปาเฉลี่ยเดือนละ 72,000-75,000 ลูกบาศก์เมตร ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้น้ำระเหยรั่วซึมอีกเดือนละกว่า 2 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงได้ขอความร่วมมือประชาชนให้ร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด และมีคุณค่า เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำดังกล่าวด้วย
"ขอร้อง ให้ช่วยกันประหยัดใช้น้ำ เพราะต้องนี้วิกฤตแล้วถ้าฝนไม่ตกอาจจะต้องขาดแคลนน้ำแต่ละเดือนสูบน้ำจากลำ น้ำมาศระยะทางกว่า 16 กิโลเมตร"
