เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวความคืบหน้า สภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่จ.นราธิวาส ว่า วันนี้ฝนที่เคยตกลงมาอย่างหนักติดต่อกัน 3วัน ได้หยุดลงแล้ว แต่ท้องฟ้ายังคงมีเมฆดำครึ้มแพร่ปกคลุม ทั้ง 13 อำเภอ ส่วนน้ำป่าที่มีต้นกำเนิดบนเทือกเขาสันกาลาคีรียังคงไหลบ่าลงมาสมทบในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักอย่างต่อเนื่องจนปริมาณน้ำล้นสูงกว่าตลิ่ง 1.25 เมตร และไหลเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของราษฎรเป็นวงกว้าง33 หมู่บ้าน 6 ชุมชน ในพื้นที่11 ตำบล 3 อำเภอซึ่งมีราษฎรได้รับความเดือดร้อน 3,348 ครัวเรือน รวม12,392 คน
โดยแยกเป็นพื้นที่น้ำท่วมอำเภอแว้ง 20 หมู่บ้าน5 ตำบล โดยมีระดับน้ำท่วมขังสูงโดยภาพรวมเฉลี่ย 40-60 ซ.ม. โรงเรียนบ้านบูเก๊ะตา หมู่ 2 ต.โล๊ะจูด ต้องประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นการฉุกเฉินส่วนอำเภอสุคิรินมีน้ำท่วมขัง 13 หมู่บ้าน 5 ตำบล ในพื้นที่ที่เป็นที่ราบลุ่มแถบหุบเขาโดยมีระดับน้ำท่วมขังสูงโดยภาพรวม 60-80 ซ.ม. สวนผลไม้ถูกน้ำท่วม 162 ไร่ถนนในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมขัง 14 สายโดยเฉพาะสายบ้านโนนสมบูรณ์ ม.5 และสายบ้านไอปาโจ หมู่ 1 ต.ภูเขาทอง หนักสุด แต่รถขนาดใหญ่เท่านั้นที่สามารถสัญจรไปมาได้
ส่วนอำเภอสุไหงโก-ลกมีน้ำท่วมขัง 6 ชุมชนซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ประกอบด้วย ชุมชนหัวสะพานท่าโรงเลื่อย ท่าเจ๊ะกาเซ็ง ท่าประปา ท่าชุมพู่ และท่าบือเร็งซึ่งมีน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ยในภาพรวม 100-120 ซ.ม. ราษฎรจำนวน 28 ครัวเรือน รวม 131 คน ต้องอพยพไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพของอาคารเรียนโรงเรียนเทศบาล 4 เป็นการชั่วคราวนอกจากนี้ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ภายในบริเวณศาลเจ้าแม่โต๊ะโม๊ะ ถนนชลธารเขต ซอย3 ซึ่งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มักจะนำรถไปจอดไว้ต่างต้องจ้างรถยกมาทำการเคลื่อนย้ายเพื่อหนีระดับที่ท่วมขังสูงอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ด้วย
ขณะ ที่มัสยิด หมู่ 2 บ้านบูเกะตา อ.แว้ง นางธัญญาลักษ์ ศิริชนะ นายกเหล่ากาชาด จังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนาย สิทธิชัย ศักดา รอง ผวจ.นราธิวาส และคณะนำถุงธารน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสภากาชาดไทยมามอบให้กับราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุถกภัยน้ำท่วมฉับพลัน 3 ตำบล ของ อ.แว้ง จำนวน 1088 ครัวเรือนสำหรับที่มัสยิดบ้านบูเกะตา มีราษฎรมารับถุงยังชีพทั้งหมดจำนวน 300 ชุดและที่เหลือจะให้ทางอำเภอแว้งดำเนินการไปมอบจนครบจำนวนต่อไป
Credit : http://www.dailynews.co.th