วันนี้ (23 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ว่าตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำท่วมสูงขึ้นทุกจุด ประมาณ 4 เซนติเมตร เนื่องจากมีน้ำป่าจากเทือกเขาแม่วงก์ไหลบ่าลงมาสมทบอยู่เป็นระยะๆ จึงทำให้ทางจังหวัด ต้องส่งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาติดตั้งในย่านเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อเร่งการระบายน้ำออก จนกระทั่งช่วงเวลา 13.00 น. น้ำเริ่มลดระดับลงบ้าง
แต่สถานการณ์โดยรวมยังคงมีฝนตกอยู่ทั้งใน อ.แม่วงก์ และ อ.ลาดยาว อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่อุทยาแห่งชาติแม่วงก์ ได้สั่งปิดการท่องเที่ยวเขตอุทยานโดยไม่มีกำหนดแล้ว เพราะยังมีฝนตกติดต่อกันอย่างหนักบนเทือกเขา จนทำให้มีปริมาณน้ำป่าไหลบ่าลงสู่พื้นที่ต่ำเป็นจำนวนมากด้วย
ต่อมาช่วงเย็น ระดับน้ำกลับเพิ่มสูงมากขึ้น และขยายวงกว้างเข้าท่วมพื้นที่รอบเขตเทศบาล ประกอบด้วย ต.วังเมือง ต.บ้านไร่ ต.ลาดยาว ต.มาบแก ต.หนองนมวัว ต.ห้วยน้ำหอม ต.วังม้า ต.ศาลเจ้าไก่ต่อ ต.เนินขี้เหล็ก และ ต.วังเมือง อ.ลาดยาว มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่า 2,000 ครัวเรือน
สำหรับการให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานราชการ มีกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 31 ค่ายจิระประวัติ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการนำกระสอบทรายไปปิดกั้นทางน้ำตามหมู่บ้านทั่วเขตเทศบาลฯ เพื่อให้ช่วยเหลือแก่ประชาชน ส่วนนายชัยโรจน์ มีแดง ผวจ.นครสวรรค์ ได้เปิดศูนย์รับบริจาคสิ่งของ น้ำดื่ม และอาหารแห้ง นำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัย โดยให้บริจาคผ่านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครสวรรค์
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง พื้นที่เขตเทศบาลตำบลหนองบัว อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ที่ประสบอุทกภัยจากฝนและน้ำป่าจากจ.เพชรบูรณ์ ไหลทะลักเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายลงจนเกือบเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ในวันนี้ปรากฏว่ามีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า และชาวบ้านในเขตเทศบาลดังกล่าวกว่า 40 คน เดินทางเข้าพบกับนางดลฤดี ติยะโสภณจิต นายกเทศมนตรีตำบลหนองบัว เพื่อสอบถามเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาน้ำท่วม ไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีกเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากพื้นที่เขตเทศบาลตำบลหนองบัว ไม่เคยมีเหตุการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้นเป็นเวลานานหลายวัน
ทั้งนี้นางดลฤดี ได้ตอบเพียงว่า สามารถทำได้แค่ขุดลอกคูคลอง และเพิ่มเครื่องสูบน้ำเท่านั้น กลุ่มชาวบ้านจึงถามถึงงบฉุกเฉิน 1,200,000 บาท แต่ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า เรื่องดังกล่าว ยังไม่ผ่านสภา เนื่องจากมีการคัดค้าน จึงยังไม่ได้รับงบประมาณจำนวนนี้จากรัฐบาล
Credit : http://www.dailynews.co.th