พังงา - ชาวบ้านปากคลอง อ.กะปง จ.พังงา กว่า 60 ครัวเรือน ต้องใช้เรือท้องแบนแทนรถในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน ขณะที่ทางจังหวัดพังงา เร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยหลังน้ำลด โดยเฉพาะสะพานที่ถูกน้ำป่ากัดเซาะตัดขาดการคมนาคมเป็นวงกว้างต้องรีบดำเนินการแก้ไขโดยด่วน
เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (6 ส.ค.) จากเหตุการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ของจังหวัดพังงา เป็นเหตุให้การคมนาคมหลายสายชำรุด และสะพานถูกตัดขาด โดยเฉพาะสะพานบ้านปากคลอง หมู่ 3 ต.รมณีย์ อ.กะปง จ.พังงา ถูกน้ำป่าซัดขาดหายไป ส่งผลให้ราษฎรประมาณ 60 ครัวเรือน จำนวนกว่า 200 คน ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ชาวบ้านต้องอาศัยเรือท้องแบน กองทัพเรือภาคที่ 3 ในการสัญจรข้ามไปมาด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากน้ำในคลองยังคงไหลเชี่ยว และไม่สามารถขนพืชผลทางการเกษตรได้เลย
ด้าน นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้หลายหน่วยงานเข้าไปให้การช่วยเหลือเบื้องต้น ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา ได้เร่งก่อสร้างทางชั่วคราวเพื่อให้ประชาชนสัญจรไปมาได้ ส่วนการจัดหาสะพานแบริ่งมาเชื่อมเส้นทางที่ถูกตัดขาดนั้น ขณะนี้สำนักบำรุงทางพังงากำลังประสานศูนย์ก่อสร้างและบูรณะสะพานที่ 4 ทุ่งสง มาดำเนินงาน เนื่องจากลำคลองมีความกว้าง 9 เมตร ยาว 80 เมตร อุปกรณ์สะพานที่ สต๊อกไว้ไม่เพียงพอต่อการเชื่อมต่อเส้นทาง จึงจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนจากหน่วยอื่น อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพเรือภาคที่ 3 ได้ส่งเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่อย่างเร่งด่วน
ขณะที่ นายวาสนา ทองสุข นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรมณีย์ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ได้กลับสู่สภาวะปกติหลังจากฝนหยุดตก แต่ปัญหาที่ชาวบ้านกว่า 60 ครัวเรือน บริเวณ ม.3 บ้านปากคลองใน ต.รมณีย์ อ.กะปง จ.พังงา ได้รับความเดือนร้อนจากสะพานที่ถูกน้ำป่าพัดได้จนได้รับความเสียหายทั้งหมด ชาวบ้านที่ใช้รถใช้ถนนในหมู่บ้านไม่สามารถสัญจรได้ ต้องอาศัยเรือท้องแบนของทัพเรือภาคที่ 3 ในการสัญจรข้ามไปมา เพื่อไปติดต่อหน่วยงานราชการในพื้นที่ หรือประชาชนที่ต้องเดินทางโรงพยาบาลเมื่อยามเจ็บป่วยไข้ยามค่ำคืน จึงต้องการให้ทางจังหวัดเร่งก่อสร้างสะพานแบริ่งชั่วคราวเพื่อให้ชาวบ้านได้ข้ามหมู่บ้านในการขนพืชผลทางการเกษตร ปาล์มน้ำมัน และยางพารา
Credit : http://www.manager.co.th
