กาฬสินธุ์ - หลังเขื่อนลำปาวหยุดปล่อยน้ำ ปริมาณน้ำลดระดับอย่างรวดเร็ว ล่าสุดมีน้ำค่อนอ่างเพียงร้อยละ 17 เท่านั้น กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในเขื่อนลำปาวได้รับผลกระทบโดยตรง ปลาน็อกตายจำนวนมาก ต้องเร่งจับปลาขึ้นมาแปรรูปปลาร้า-ปลาเค็มออกขาย วอนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือด่วน
จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดครอบคลุมทุกพื้นที่ในภาคอีสาน ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดใหญ่เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเขื่อนลำปาว ล่าสุดมีปริมาณน้ำกักเก็บประมาณ 334 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเพียงร้อยละ 17 ของความจุอ่าง และปริมาณน้ำยังมีแนวโน้มที่จะลดลงอีก เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในตอนกลางวัน
ทั้งนี้ จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ประกาศให้พื้นที่ทั้ง 18 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้ง ซึ่งครอบคลุมทั้งจังหวัดแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการลงติดตามสถานการณ์ในพื้นที่บ้านโคกกลางเหนือ หมู่ 4 ต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ยังพบว่าด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัดและมีน้ำน้อยส่งผลกระทบระบบนิเวศน์โดยตรง ซึ่งกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังกว่า 80ราย กำลังประสบปัญหาปลากระชังน็อกน้ำตายทุกวัน
เบื้องต้นเกษตรผู้เลี้ยงปลา ต้องเร่งตักปลาออกจากกระชังเพื่อป้องกันปลาในกระชังตายเพิ่ม และนำปลาที่ตายไปแปรรูปเป็นปลาร้าหรือปลาเค็มเพราะปลาที่ตายไม่สามารถขายเป็นปลาสดได้
นายบุญสวน บูรณะ อายุ 60ปี หนึ่งในกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงปลากระชัง ระบุว่า สาเหตุที่ปลากระชังน็อกน้ำตายน่าจะเกิดจากกสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวประกอบกับมีแดดลงจัดและน้ำในเขื่อนลดน้อยลงเรื่อยๆ จนเกิดภาวะขาดออกซิเจน จึงทำให้ปลากระชังน็อกอย่างที่เห็น ซึ่งปลาที่ตายชาวบ้านได้แต่นำไปแปรรูปทำเป็นปลาร้าปลาเค็มเพื่อจำหน่ายหรือเอาไว้บริโภคกันเองในครัวเรือน
โดยกลุ่มผู้ปลากระชังบ้านโคกกลางเหนือ มีผู้เลี้ยงปลากระชังไม่น้อยกว่า 80 ราย ซึ่งทุกกระชังปลามีปลาน็อกตายจำนวนมาก ประเมินมูลค่าความเสียหายรวมแล้ว นับล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางเกษตรกรบางรายกำลังพยายามจะลองเลี้ยงปลาชุดใหม่ ด้วยการลงลูกปลาเพิ่มเพื่อทดแทนปลาที่ตาย แม้จะยังกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ตาม แต่หากหยุดเลี้ยงช่วงนี้ไปก็จะขาดรายได้ ไม่มีงานทำ จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐออกมาสำรวจเพื่อหาทางแก้ปัญหาโดยเร็วก่อนที่ปลาจะน็อกตายไปมากกว่านี้
Credit: http://www.manager.co.th