วันนี้ (26 พ.ย. 55) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศที่จังหวัดสุรินทร์ ในช่วงนี้ ปรากฏว่า ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะๆ แทบทุกทุกวัน ซึ่งจากสภาพอากาศ ที่ฝนตกลงมาทุกวัน ในช่วงนี้ สร้างปัญหาความยากลำบากให้แก่เกษตรกรชาวนา ที่อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวข้าว เพราะต้องลำบากในการนำข้าวมาตากแดด ให้แห้งลดความชื่น เมื่อนำไปขาย หรือ จำนำข้าวกับโครงการรัฐบาล จะได้ราคาสูงขึ้น
และในช่วงเช้าทุกวันในช่วงนี้ก็ปรากฏว่า มีหมอก น้ำค้างลงอย่างหนาแน่นทุกวัน ตั้งแต่ช่วงค่ำคืน จนกระทั่งถึงช่วงเวลา 08.00 น.ประชาชนที่เดินทางในช่วงเช้าๆ ต่างก็แปลกใจ ที่สภาพอากาศแปรปรวน ตามถนนสายต่างๆ หมู่บ้านและชุมชน พบว่ามีหมอก น้ำค้างลงอย่างหนาแน่น ถนนทุกสายถูกปกคลุมด้วยหมอกและน้ำค้าง ทุกคนต่างก็แปลกว่า ว่า สภาพอากาศ เปลี่ยนแปลงไปมาก กลางวัน มีสภาพอากาศ ที่ร้อน สลับกับ ฝนตก และช่วงกลางคืน สภาพอากาศ ค่อนข้างเย็น และช่วงเช้า ปรากฏว่า มีหมอก น้ำค้าง ลงปกคลุมพื้นที่อย่างหนาแน่นทุกวัน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ทั้งที่ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าหนาว แล้วก็ตาม
ด้านนายแพทย์ธงชัย ตรีวิบูลย์วณิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ กล่าวว่า ช่วงนี้จังหวัดสุรินทร์มีฝนตกบ้างในบางวันและเริ่มเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาวมีการเปลี่ยนแปลงของอากาศ จึงขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพให้ดี เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคได้เป็นปกติ ซึ่งช่วงเปลี่ยนฤดูมักจะทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะโรคที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดและโรคปอดบวม ซึ่งมักจะมีผู้ป่วยเกิดขึ้นจำนวนมาก
นอกจากนี้ โรคไข้หวัด 2009 ยังเป็นเชื้อที่รุนแรงและมีโอกาสเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนได้ วิธีการป้องกัน คือ การรักษาความอบอุ่นในร่างกาย ที่จะต้องมีความอบอุ่น เพราะเวลาหนาว จะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงอาจจะทำให้เป็นไข้หวัดได้ง่าย เวลาเป็นไข้หวัด ถ้าหากไม่ดูแลให้ดี โดยเฉพาะภูมิคุ้มกันไม่ดี อาจจะทำให้เป็นสาเหตุของการเป็นโรคปอดบวม บางรายอาจจะเสียชีวิตได้ หากต้องอยู่ในกลุ่มที่ภูมิคุ้มกันมีปัญหา หรือผู้ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง รวมทั้งผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ หรือเด็ก สามารถมาติดต่อฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดกับโรงพยาบาลสุรินทร์ได้ทุกวัน ในวันและเวลาราชการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ยังมีโรคไข้เลือดออก ที่จะต้องระวังไม่ให้ยุงลายกัด โดยอาการของโรคไข้เลือดออก จะมีอาการเหมือนไข้หวัดทุกประการ เกิดจากยุงลายกัด ถ้าเป็นแล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจจะทำให้เกิดการเสียชีวิต การใช้ยาไม่ถูกต้องของประชาชน เช่น ยาแอสไพริน ที่ไปหาซื้อมารับประทานเอง ดังนั้น ถ้าเกิดอาการเจ็บป่วย มีไข้ ให้รับประทานยาพาราเซตามอล และเช็ดตัว เพื่อให้ไข้ลดลง และดื่มน้ำมากๆ หากมีจุดแดงๆ เป็นจุดๆ หลายจุด ตามแขน ขา หรือมีการอาเจียน หรือซึม ให้รีบนำผู้ป่วยมาให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยโรค อย่างไรก็ตาม ประชาชนควรช่วยกันป้องกันการเกิดโรคตั้งแต่แรก คือการไม่ให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบ้านเรือนของตน
Credit: http://www.dailynews.co.th