หลายพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วง ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปรับปรุงระบบชลประทานเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร
องค์การบริหารส่วนตำบลหนองพระ อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร นำรถแบ็คโฮขุดลอกคลองส่งน้ำในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลหนองพระ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อให้คลองส่งน้ำมีระดับที่ลึกกว่าเดิม สำหรับกักเก็บน้ำพร้อมเปิดทางให้น้ำไหลได้สะดวก
เจ้าหน้าที่ระบุว่าการขุดลอกคลองส่งน้ำเป็นวิธีการหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร ที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง และน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติมีน้อย ซึ่งพื้นที่ตำบลหนองพระ อำเภอวังทรายพูน เป็นพื้นที่ที่อยู่นอกเขตชลประทาน ทางจังหวัดได้ประกาศ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติจากฝนทิ้งช่วงแล้ว
หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปางร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอบรมให้ความรู้ด้านการป้องกันและระงับอัคคีภัย ในศาสนสถานให้กับพระสงฆ์ และบุคลากรในวัดต่างๆ เนื่องจากขณะนี้สภาพอากาศแห้งแล้ง จึงเกรงว่าจะเกิดเพลิงไหม้
ส่วนที่จังหวัดหนองคาย ชาวนาตำบลวัดธาตุ อำเภอเมือง ลงทุนทำนาปรังกว่า 2,000 ไร่ แม้จะเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำในช่วงฤดูแล้ง ชาวนาบางคน กล่าวว่า ฤดูกาลที่ผ่านมาได้ผลผลิตน้อยจากภาวะฝนทิ้งช่วงจึงยอมเสี่ยงทำนาปรัง
ข้าวนาปีในตำบลม่วงลาด อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด มีสภาพยืนต้นตาย และเมล็ดแห้งลีบ เพราะขาดน้ำจากภาวะฝนทิ้งช่วง และระดับน้ำในแม่น้ำชีลดลงอย่างต่อเนื่อง ชาวนาบางส่วนจึงเรียกร้องให้จังหวัด ประสานไปยังจังหวัดมหาสารคาม ปล่อยน้ำจากฝายวังยาง เพื่อให้มีน้ำทำนา
ส่วนที่จังหวัดมหาสารคาม แม่น้ำชี ลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบผู้เลี้ยงปลากระชังใน 4 อำเภอ ต้องลดปริมาณการเลี้ยง และจับปลาขายก่อนกำหนด เพราะเกรงว่าปลาจะช็อคตาย ซึ่งขณะนี้จังหวัดมหาสารคาม มีพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 10 อำเภอ มีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 100,000 ครอบครัว
ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 4 แห่ง ในจังหวัดกาฬสินธุ์ มีปริมาณกักเก็บเพียงร้อยละ 28 ของความจุอ่าง เจ้าหน้าที่ต้องงดส่งน้ำเพื่อการเกษตร ยกเว้นอ่างเก็บน้ำลำพะยังตอนบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่มีน้ำร้อยละ 70 ของความจุอ่าง แต่สามารถส่งน้ำให้เกษตรกรปลูกพืชฤดูแล้งได้เพียง 300 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 4,600 ไร่
CRedit: http://news.thaipbs.or.th