ฟิลิปปินส์ถูกพายุโซนร้อนถล่มซ้ำอีก ขณะที่อิทธิพลจากมรสุมยังทวีความรุนแรง สร้างความเสียหายซ้ำเติมมหาอุทกภัยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม และดินถล่ม มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน
พายุโซนร้อนไค-ตั๊ก พัดขึ้นฝั่งที่จังหวัดอิสเบล่า ทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม และดินถล่มในพื้นที่แถบเชิงเขา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน และได้รับผลกระทบกว่า 20,000 คนใน 97 หมู่บ้าน ประชาชนอีกกว่า 2,500 คน ต้องอพยพเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงของทางการ ขณะที่ผู้ขับขี่รถยนต์หลายคนต้องติดอยู่กลางน้ำ นอกจากนี้น้ำท่วมยังสร้างความเสียหายให้กับไร่ข้าวโพดในเมืองคากายาน ทำให้เกษตรต้องสูญเสียผลผลิตจำนวนมาก
อิทธิพลของพายุโซนร้อนไค-ตั๊ก ยังทำให้เกิดฝนตกหนักในกรุงมะนิลาและในจังหวัดใกล้เคียง ซ้ำเติมความเสียหายจากมหาอุทกภัยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 95 คน ไร้ที่อยู่อาศัยอีกหลายหมื่นคนและสร้างความเสียหายให้กับสาธารณูปโภค รวมทั้งพื้นที่ทางการเกษตรคิดเป็นมูลค่าถึง 1,718 ล้านบาท
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์รายงานว่าพายุโซนร้อนไค-ตั๊ก เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 17 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความเร็วลมสูงสุด 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ในวันนี้และจะมุ่งหน้าไปยังชายฝั่งทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน
ส่วนที่เขตไซบีเรียของรัสเซีย เกิดพายุลูกเห็บรุนแรงในเมือง "เมซดูเรเชนสค์" ในช่วงกลางฤดูร้อน โดยลูกเห็บที่ตกโปรยปรายราวกับฝนมีขนาดใหญ่กว่าไข่ไก่ มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 20 คนและรถยนต์ได้รับความเสียหากว่า 100 คัน ส่วนใหญ่ถูกลูกเห็บตกใส่จนกระจกหน้าและกระจกหลังแตก
เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาของรัสเซียระบุสาเหตุที่ทำให้เกิดพายุลูกเห็บแบบทันทีทันใดในช่วงฤดูร้อนว่าเกิดจากการลดฮวบของอุณหภูมิจาก 32 องศาเซลเซียสในช่วงเวลากลางวัน ลงมาอยู่ที่ 16 องศาเซลเซียสในช่วงเย็น
ขอขอบคุณ http://news.thaipbs.or.th