ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้พื้นที่ครึ่งหนึ่งของกรุงมะนิลาจมอยู่ใต้น้ำ และทำให้เกิดดินถล่ม มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยฟิลิปปินส์ต้องเร่งช่วยเหลือและอพยพประชาชนหลายหมื่นคน หลังฝนตกหนักจากฤดูมรสุม ทำให้น้ำในเขื่อนและแม่น้ำทั้งในกรุงมะนิลาและจังหวัดโดยรอบ ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนหลายหมู่บ้าน ประชาชนจำนวนมากต้องหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคา ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ในกรุงมะนิลากลายเป็นอัมพาต ถือเป็นอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดตั้งแต่ปี 2552 และซ้ำเติมเหตุพายุไต้ฝุ่นซาวลาพัดถล่มฟิลิปปินส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 53 คน
ผู้อำนวยการศูนย์รับมือภัยพิบัติของฟิลิปปินส์เผยว่า ขณะนี้มีน้ำท่วมพื้นที่ร้อยละ 50 ของกรุงมะนิลา โดยพื้นที่ร้อยละ 30 ระดับน้ำสูงถึงเอว หรือคอ ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม และน้ำท่วม ให้อพยพเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งขณะนี้ต้องรับผู้ประสบภัยน้ำท่วมแล้วเกือบ 20,000 คน
ด้านสำนักพยากรณ์อากาศของกรุงมะนิลารายงานว่า พายุโซนร้อนที่ก่อตัวนอกชายฝั่งตะวันออกของจีน ส่งอิทธิพลทำให้ฝนฤดูมรสุมในฟิลิปปินส์ตกหนักมากขึ้น และคาดว่าจะมีผลไปจนถึงวันพรุ่งนี้
รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศให้วานนี้และวันนี้เป็นวันหยุดราชการในกรุงมะนิลา โรงเรียนหยุดการเรียนการสอน ส่วนตลาดหุ้นปิดทำการ เช่นเดียวกับสถานทูตสหรัฐฯประจำฟิลิปปินส์ ที่ตั้งอยู่ในเขตที่น้ำท่วม
ด้านประธานาธิบดี เบนิกโน อาควิโน ที่ 3 ของฟิลิปปินส์ ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานฉุกเฉินต่างๆ สั่งให้เจ้าหน้าที่หาทางช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเตรียมความช่วยเหลือโรงพยาบาลในกรณีที่เกิดไฟดับ
ขอขอบคุณ http://www.krobkruakao.com