เอเจนซี่ - พายุฝนที่ตกกระหน่ำทั่ว 22 มณฑลในจีนมาตั้งแต่วันศุกร์ ที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา คร่าชีวิตประชาชนแล้วอย่างน้อย 111 คน และมีผู้สูญหายอีก 47 คน ขณะที่มีประชาชนประสบความเดือดร้อนจากภัยพิบัติธรรมชาติจากฝนที่ตกหนักเกือบ 9 ล้าน 2 แสนคน ใน 353 อำเภอ และต้องอพยพประชาชนเกือบ 1 ล้าน 1 แสน 8 หมื่นคนออกจากพื้นที่ประสบภัยจากการเปิดเผยของ กระทรวงกิจการพลเรือนจีนเมื่อวันอังคาร (24 ก.ค.)
นอกจากนั้นพายุฝนยังทำลายบ้านเรือนไปถึง 5 หมื่น 4 พันหลัง และสร้างความเสียหายอีก 1 แสน 4 หมื่น 4 พันหลัง
ทั้งนี้ พายุฝนได้ตกกระหน่ำครอบคลุมเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคเหนือของจีน นอกจากนั้น ในมณฑลเหอเป่ย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กันยังเกิดน้ำท่วมและลูกเห็บตกใน 58 อำเภอ ขณะที่ 12 อำเภอใน 5 เมืองของมณฑลส่านซีทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือก็ประสบฝนตกหนักมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฝนได้หยุดตกแล้วในหลายภูมิภาคของประเทศ โดยในเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเจียง ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ การจราจรบนท้องถนนและบริการเดินรถไฟกลับมาใช้ได้เป็นปกติแล้ว
ด้านสถานการณ์ที่เขื่อนสามโตรกในเมืองอี๋ชาง มณฑลหูเป่ยนั้น เนื่องจากฝนที่ตกกระหน่ำบริเวณแม่น้ำแยงซีตอนบน ทำให้น้ำในเขื่อนเพิ่มระดับสูงสุดเมื่อเวลา 20.00 น.ในวันอังคาร (24 ก.ค.) โดยน้ำไหลทะลักเข้าอ่างเก็บน้ำมากถึง 71,200 คิวบิกเมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นปริมาณน้ำไหลทะลักมากที่สุด นับตั้งแต่เขื่อนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2546 และทำลายสถิติที่ 70,000 คิวบิกเมตรต่อวินาทีเมื่อปี 2553 อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สามารถระบายน้ำในเขื่อนผ่านทางระบาย 8 ช่องทางด้วยความเร็ว 43,000 คิวบิกเมตรต่อวินาที จนระดับน้ำในเขื่อนอยู่ในระดับปกติ และลดอันตรายจากการเกิดน้ำท่วมในบริเวณแม่น้ำแยงซีตอนล่าง
ขอขอบคุณ http://www.manager.co.th