พายุฝนพัดถล่มอาร์เจนตินากลางฤดูร้อน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเกือบ 20 คน ขณะที่ยุโรปหนาวจัด โปแลนด์หนาวตายไปแล้ว 15 คน ส่วนรัสเซียอุณหภูมิดิ่งฮวบเข้าขั้นวิกฤต
พายุฝนพัดถล่มพื้นที่ทางภาคเหนือของอาร์เจตินา ซึ่งเผชิญกับภัยแล้งมาเป็นเวลานาน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ของเมืองคอร์โดบา เมืองใหญ่สุดอันดับ 2 ของอาร์เจนตินา มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 15 คน โดยก่อนหน้าที่จะเกิดพายุฝน มีรายงานว่าสภาพอากาศร้อนจัด อุณหภูมิพุ่งสูงเกือบ 37.7 องศาเซลเซียส พร้อมกับมีกระแสลมแรง มีความเร็วลมสูงสุดถึง 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ยังเกิดพายุลูกเห็บสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ที่จอดอยู่กลางแจ้ง
พายุยังส่งผลกระทบในอีกหลายพื้นที่ทางภาคกลางของอาร์เจนตินา รวมทั้งเมืองเมนโดซา เมืองซานติเอโก เอล เอสเตโร และพื้นที่ทางตะวันออกของจังหวัดบัวโนส ไอเรส ขณะที่ทางการอาร์เจนตินากำลังเร่งส่งความช่วยเหลือเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยพายุ
ส่วนยุโรปก็ต้องเผชิญวิกฤตภัยหนาวรุนแรงในโปแลนด์มีผู้เสียชีวิตจากความหนาวไปแล้วถึง 15 คน นับตั้งแต่อุณหภูมิลดต่ำลงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีผู้ลมป่วยอีกจำนวนมากจากการสูดดมก๊าซคาร์บอนโนน็อกไซด์ ซึ่งเกิดจากเครื่องทำความร้อนที่เก่าหรือเสีย ล่าสุดมีรายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตจากความหนาวเย็นในยุโรปตะวันออกพุ่งสูงกว่า 60 คนแล้ว ในจำนวนนี้เป็นคนไร้บ้านในยูเครนถึง 30 คน
ขณะที่ในรัสเซีย อุณหภูมิดิ่งฮวบในหลายพื้นที่จากไซบีเรียจนถึงพื้นที่ตอนกลาง บางแห่งอุณหภูมิดิ่งลงไปติดลบถึง 40 องศาเซลเซียส ทำให้มีน้ำค้างแข็งปกคลุมไปทั่ว และคาดการณ์ว่าอุณหภูมิที่เขตคาคาสเซียทางตอนใต้ของไซบีเรียอาจดิ่งลงไปติดลบถึง 45 องศาเซลเซียสในช่วงสุดสัปดาห์นี้ สภาพอากาศที่เลวร้าย ทำให้บริษัทรถโดยสารต้องยกเลิกบริการในหลายเส้นทาง ผู้คนต้องใช้วิธีเดินเท้าไปทำงานและไปโรงเรียนท่ามกลางสภาพอากาศที่เหน็บหนาว
ขอขอบคุณ http://news.thaipbs.or.th/