สหรัฐฯ สั่งอพยพประชาชนกว่า 2 ล้านคนแถบชายฝั่งตะวันออก ไปยังที่ปลอดภัย ก่อนที่เฮอริเคนไอรีน จะพัดถล่มในวันนี้ ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ เตือน ไอรีนจะเป็นพายุครั้งรุนแรงในประวัติศาสตร์ที่พื้นที่ดังกล่าวต้องเผชิญ ล่าสุดประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มเป็น 7 รัฐแล้ว
แม้เฮอริเคนไอรีนจะยังไม่ขึ้นฝั่ง แต่อิทธิพลของเฮอริเคนทำให้เกิดลมแรงและฝนตกในพื้นที่ชายฝั่งรัฐนอร์ทแคโรไลนาในวันนี้แล้ว
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งหยุดพักผ่อนฤดูร้อนต้องเดินทางกลับกรุงวอชิงตัน ดีซี.ก่อน 1 วันและได้ออกแถลงการณ์เตือนประชาชนให้รับมือกับเฮอริเคนไอรีน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยในพื้นที่ที่เฮอริเคนพัดผ่าน คาดว่า จะมีชาวอเมริกันอย่างน้อย 65 ล้านคนได้รับผลกระทบจากเฮอริเคนไอรีน และจะเกิดความสูญเสียเป็นมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯในเมืองใหญ่ ๆ ของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นกรุงวอชิงตัน บัลติมอร์ ฟิลาเดลเฟีย นิวยอร์ก และบอสตัน
ล่าสุดได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มอีก 1 รัฐ คือ ที่รัฐคอนเนตทิคัต ทำให้ตอนนี้มีทั้งสิ้น 7 รัฐแล้วที่ทางการประกาศภาวะฉุกเฉิน โดยก่อนหน้านี้ประกาศภาวะฉุกเฉินไป 6 รัฐ คือ นอร์ทแคโรไลนา,แมริแลนด์,เวอร์จิเนีย,เดลาแวร์,นิวเจอร์ซีย์,นิวยอร์ก และคอนเนตทิคัต
แม้เฮอริเคนไอรีนจะอ่อนกำลังเหลือระดับ 2 แต่เมื่อขึ้นฝั่งที่นอร์ทแคโรไลนา ในวันนี้ คาดว่า จะมีความเร็วลม 155 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากนั้นเฮอริเคนไอรีนจะมุ่งหน้าไปทางเหนือไปยังกรุงวอชิงตัน และนครนิวยอร์ก รายงานระบุว่า ได้มีคำสั่งอพยพประชาชนอย่างน้อย 2.3 ล้านคนแล้ว โดยที่รัฐนิวเจอร์ซีย์อพยพ 1 ล้านคน,แมริแลนด์อพยพ 315,000 คน,นอร์ทแคโรไลนาอพยพ 3 แสนคน,เวอร์จิเนียอพยพ 2 แสนคน และเดลาแวร์ 1 แสนคน ส่วนที่นครนิวยอร์ก สั่งอพยพกว่า 3 แสนคน นครนิวยอร์กยังได้หยุดให้บริการรถไฟใต้ดินตั้งแต่เที่ยงวันนี้เป็นต้นไป ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รถไฟใต้ดินนิวยอร์หยุดบริการเนื่องจากภัยธรรมชาติ
ขณะที่สะพานใหญ่ ๆ ก็ปิดการจราจรด้วยเกรงว่าลมที่พัดแรงจัดจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ส่วนรถไฟแอมแทร็ค ได้ยกเลิกการให้บริการระหว่างกรุงวอชิงตันดีซี.ไปยังเมืองบอสตันในวันนี้ และยังระงับการให้บริการไปยังเวอร์จิเนียด้วย ขณะที่กระสอบทรายในกรุงวอชิงตันดีซี.ตอนนี้เริ่มขาดแคลนแล้ว
เจ้าหน้าที่การบินสั่งปิดพื้นที่บางส่วนของสนามบินสำคัญ ๆ ตั้งแต่เที่ยงวันนี้ รายงานระบุว่า ในสุดสัปดาห์นี้สายการบินต่าง ๆ ต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 2,000 เที่ยว
โดยปกติแล้วในแถบทะเลแคริบเบียนและหมู่เกาะในแอตแลนติก จะคุ้นเคยกับเฮอริเคน แต่สำหรับพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ มักจะเจอแต่พายุที่มีความรุนแรงเพียงเล็กน้อย ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา นครนิวยอร์กเคยเผชิญกับเฮอริเคนครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1985 (26 ปีก่อน) คือเฮอริเคนกลอเรีย ทั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองในรอบ 1 สัปดาห์ที่พื้นที่ชายฝั่งตะวันออกสหรัฐฯ จะต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้น ซึ่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก็เกิดแผ่นดินไหว 5.8 ริกเตอร์มาแล้ว เป็นขนาดความรุนแรงแผ่นดินไหวที่ไม่ค่อยจะเกิดในพื้นที่ดังกล่าว
ขอขอบคุณ http://www.krobkruakao.com
