เมื่อ 17 ส.ค.63 เมื่อ 17 ส.ค.63 สำนักข่าวบีบีซีรายงาน สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ ตรวจวัดพบอากาศร้อนจัดที่สุดบนโลก เท่าที่เคยมีการบันทึกกันมา อยู่ที่ Furnace Creek ในอุทยานแห่งชาติ Death Valley (หุบเขามรณะ) ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่วัดอุณหภูมิได้สูงถึง 130 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 54.4 องศาเซลเซียส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 ส.ค. เนื่องจากอิทธิพลของคลื่นความร้อน-ฮีตเวฟ ที่แผ่มาปกคลุมชายฝั่งตะวันตกของประเทศสหรัฐอเมริกา และยังมีการคาดการณ์ว่าอิทธิพลของคลื่นความร้อนจะทำให้เกิดอากาศร้อนจัด มีอุณหภูมิสูงกว่านี้ ภายในช่วงสัปดาห์นี้อีกด้วย
ทั้งนี้ ‘หุบเขามรณะ’ เป็นทะเลทรายอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา บริเวณเขตแดนระหว่างรัฐแคลิฟอร์เนียกับรัฐเนวาดา เป็นพื้นที่แห้งแล้งทุรกันดาร ในแต่ละปีแทบไม่มีฝนตกเลย โดยก่อนหน้านี้ ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา เคยมีการบันทึกอุณหภูมิที่หุบเขามรณะ เคยสูงถึง 56.6 องศาเซลเซียส แต่ยังเกิดข้อโต้แย้ง เพราะผู้เชี่ยวชาญบอกเป็นข้อมูลที่เชื่อถือไม่ได้ ส่วนปีค.ศ.1931 เคยมีการบันทึกอุณหภูมิในประเทศตูนิเซียสูงถึง 55 องศาเซลเซียส แต่ก็ยังมีการแย้งว่าเป็นข้อมูลที่เชื่อถือไม่ได้
ส่วนอุณหภูมิสูงสุดเท่าที่เคยบันทึกกันมาในโลกก่อนหน้านี้ อยู่ที่ หุบเขามรณะ Death Valley ในรัฐแคลิฟอร์เนียเช่นกัน เพราะในปี 2556 เคยมีอากาศร้อนจัด วัดอุณหภูมิได้ 129.2 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 54 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว
สำหรับคลื่นความร้อนที่กำลังเล่นงานชาวอเมริกันอยู่ในเวลานี้ ได้แผ่ปกคลุมจากรัฐแอริโซนา ทางตอนใต้-ตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ขึ้นไปทางชายฝั่ง จนถึงรัฐวอชิงตัน ทางเหนือ-ตะวันตกของประเทศ โดยคาดว่าจะทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงสุดในวันจันทร์ที่ 17 ส.ค.-วันอังคารที่ 18 ส.ค.นี้ จากนั้น อุณหภูมิจะเริ่มต่ำลง อย่างไรก็ตาม อิทธิพลของคลื่นความร้อนจะยังคงส่งผลทำให้อากาศร้อนไปอีกอย่างน้อย 10 วัน นอกจากนั้น ขณะที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ต้องเผชิญกับฮีตเวฟ ได้ทำให้เกิด ‘firenado’ หรือทอร์นาโดไฟ สุดสะพรึง ในเขตแลสเซน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาด้วย
Credit เนื้อหาและภาพประกอบ https://www.thairath.co.th/news/foreign/1912311